“อนุทิน” ลั่น ปมปัญหาไทย-กัมพูชาต้องมีข้อสรุป แจงร่วมวง JBC หวังป้องอธิปไตยไม่ให้ไทยเสียประโยชน์ ย้ำ ยุบสภาเป็นอำนาจนายกฯ ชี้ แก้รัฐธรรมนูญเดินหน้าแล้ว แต่หากไปไม่ไหวจริงๆ คืนอำนาจให้ประชาชน


เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงการเดินหน้าการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา (JBC) สมัยพิเศษ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 ตุลาคม 2568 ในขณะที่มีเสียงทักท้วง ว่า อย่างที่ตนเรียน อะไรที่ดำเนินอยู่แล้วและประเทศไทยไม่ได้สูญเสียประโยชน์ และเป็นสิ่งที่เราจะสามารถบรรลุสิ่งที่เป็นความต้องการของรัฐบาลไทยและของคนไทยได้ โดยยึดถือเกียรติภูมิของประเทศและอธิปไตยของประเทศเป็นสาระสำคัญ และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสาระสำคัญ เราก็จะดำเนินการไปจนกว่าเราจะหาข้อสรุปได้

“ยังไงก็ต้องมีข้อสรุปใช่ไหม ตกลงจะสู้กันต่อประจัญหน้ากัน หรือสรุปว่าต่างคนต่างไป และต่างคนต่างยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกัน มันจะต้องมีข้อสรุป มันจะค้างเติ่งอยู่แบบนี้ไม่ได้”

...

ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลอาจยุบสภาก่อนครบอายุ 4 เดือนจริงหรือไม่ ว่า “เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ผมต้องมาบอกคุณเหรอว่าผมจะยุบเมื่อไหร่ เป็นอำนาจของผม ถ้าผมอยากจะหนีผมก็หนี ถ้าผมจะอยู่ผมก็อยู่ ผมรู้ว่าวันสุดท้ายของผมคือวันไหน ถ้าผมดูแล้วรู้สึกไม่ไหวก็ยังมีอำนาจของนายกรัฐมนตรี”

ผู้สื่อข่าวถามต่อ ถ้ายังไม่ถึง 4 เดือนแล้วรัฐบาลไปต่อไม่ได้จะดำเนินการเรื่องแก้รัฐธรรมนูญอย่างไร นายอนุทิน ตอบว่า ถ้าถึงวันนั้นก็ให้ประชาชนตัดสิน ส่วนคำถามว่าพรรคประชาชนจะไม่โวยใช่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ตนก็พยายามรักษาสัญญาตาม MOA ที่ลงนามเอาไว้ แต่หากมีปัจจัยอื่นเกิดขึ้นก็ต้องช่วยกัน วันนี้เราผ่านวาระ 1 ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาแล้ว ไม่ใช่แค่เริ่มนับหนึ่ง แต่นับสามนับสี่แล้ว ถึงเวลาอันควรก็จะนำไปสู่กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมย้ำว่าอำนาจนายกรัฐมนตรีก็ยังมีอยู่ หากไปไม่ไหวจริงๆ ก็คืนอำนาจให้พี่น้องประชาชน ถือเป็นสิ่งที่ปฏิบัติทั่วไปในระบอบประชาธิปไตย.