รัฐบาลยัน “JBC-GBC” ไม่ทำไทยเสียดินแดน เร่งแก้ TOR ใช้ LiDAR ปักปันเขตแดน กลาโหมกดดันกัมพูชา "กู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์" รัดกุมขึ้น
วันที่ 20 ตุลาคม 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงยืนยันถึงความสำคัญและความโปร่งใสของการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ เพื่อคลายข้อกังวลของประชาชนเรื่องการเสียดินแดน โดยย้ำว่าทุกการเจรจาดำเนินการภายใต้หลักสันติวิธีและเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ
นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการประชุม JBC ไทย–กัมพูชา ที่จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 21-22 ตุลาคมว่า เป็นการประชุมต่อเนื่องเพื่อเน้นเฉพาะเรื่องเขตแดน โดยฝ่ายไทยมี นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เป็นประธาน ประเด็นสำคัญของการประชุม JBC คือการ "เร่งรัดแก้ไข TOR 2003" เพื่อนำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศในการสำรวจและกำหนดเขตแดน รวมถึงการหารือกรณีบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว เพื่อให้เกิดความชัดเจนในมาตรการรักษาความปลอดภัยและการสร้างรั้ว
โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยืนยันอีกครั้งว่า การประชุม JBC ไม่ใช่การสรุป แต่เป็นกลไกการเจรจาต่อรองและไม่ได้ทำให้เราเสียดินแดนต่อพื้นที่ของไทยตามที่หลายฝ่ายกังวล
ด้าน พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการประชุม GBC ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ว่า มีเป้าหมายเพื่อ "กำหนดแผนที่ชัดเจนรัดกุมมากขึ้น" ในการผลักดันให้กัมพูชาแสดงความจริงใจและปฏิบัติการร่วมกับฝ่ายไทยใน 4 เรื่องหลักที่ได้ตกลงกันไว้ในการประชุมก่อนหน้า โดยเฉพาะการถอนอาวุธหนัก ตามแนวชายแดน โดยจะกำหนดช่วงเวลาการปฏิบัติการให้ชัดเจน การเก็บกู้ทุ่นระเบิดจะกำหนดพื้นที่และช่วงเวลาการดำเนินการที่ชัดเจนขึ้น เนื่องจากผลยังไม่เป็นที่น่าพอใจ การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ (สแกมเมอร์) โดยจะมีแผนและกำหนดเวลาการปฏิบัติการร่วมกัน การจัดระเบียบฟื้นฟูสู่สภาพความสงบ ในบริเวณบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งในการประชุม GBC ครั้งนี้ จะมีมาเลเซียและสหรัฐอเมริกามาร่วมเป็นสักขีพยานและสังเกตการณ์ความจริงใจของทั้งสองฝ่ายด้วย.
...