“ชูวิทย์” ชม “โรม-ไอซ์” 2 สส.พรรคประชาชน กล้าแสดงออก เผยให้ข้อมูลไปหมดแล้วใครเอี่ยวสแกมเมอร์ แนะ “นายกฯ อนุทิน” หากแก้ได้ คะแนนนิยมทางการเมืองจะมากขึ้น
วันที่ 19 ตุลาคม 2568 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวถึงกระแสข่าว 7 นักการเมืองไทยเกี่ยวข้องแก๊งสแกมเมอร์ของกัมพูชา ว่า ไม่ต้องมาถามตนเอง แค่ถามประชาชนก็รู้กันหมดแล้ว ซึ่งก็เข้าใจว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้องดำรงอยู่ทางการเมือง และบางครั้งการเมืองไทยเป็นที่ชุบตัวของบรรดามาเฟีย ซึ่งข้อมูลตรงนี้ตนเองได้ให้กับ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ไปแล้วและได้นำไปใช้ รวมถึง น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ก็ได้นำข้อมูลนี้ไปใช้
นายชูวิทย์ เผยต่อไปว่า ทั้ง 2 คนก็กล้าที่จะแสดงออก โดยเฉพาะเรื่องการคลั่งชาติหรือการกระทำของคนบางคนที่บางครั้งใช้เครือข่ายไปทำงาน นักการเมืองไม่ได้ออกตัวเอง ซึ่งได้แนะนำรัฐบาลไปแล้วว่าให้ใช้โอกาสนี้จัดการเรื่องสแกมเมอร์ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หากจัดการได้ คะแนนนายกรัฐมนตรีและพรรคภูมิใจไทยจะมาเยอะ พร้อมระบุอีกว่า ข้อมูลที่ตนเองมีเป็นข้อมูลมาตั้งแต่ยุคจีนเทา ที่มีชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการบริหารบริษัท เช่นเดียวกับขณะนี้ที่คนที่มีชื่อเกี่ยวข้องก็พยายามจะลบชื่อออก
...
เมื่อถามว่าพอจะเปิดเผยชื่อย่อได้หรือไม่เป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน นายชูวิทย์ ตอบว่า อย่าให้ตนพูดเลย เพราะเมื่อสักครู่เพิ่งนั่งกับนายกรัฐมนตรี และตนก็ไม่ได้รู้สึกเกร็งอะไรเพราะรู้จักกับนายกรัฐมนตรีมานาน เพียงแต่ให้กำลังใจ ผู้สื่อข่าวถามย้ำ หรือรู้สึกเกร็งเพราะวันนี้มาอยู่ต่อหน้านายกรัฐมนตรี นายชูวิทย์ บอกว่า นายกรัฐมนตรีได้ทักทายและสอบถามเรื่องสุขภาพว่าเป็นอย่างไร ตนจึงอวยพรให้นายกรัฐมนตรีอยู่นานๆ โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ตนด่านายกรัฐมนตรีน้อยๆ หน่อย ซึ่งตนก็บอกว่าด่าเพราะรัก ถ้าไม่รักไม่พูดหรอก พร้อมแนะว่าหากนายกรัฐมนตรีจะจัดการปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ได้ จะได้กระแสนิยมทางการเมืองมากขึ้น เพราะตอนนี้กัมพูชาเป็นศูนย์กลางสแกมเมอร์ของโลก หากนายกรัฐมนตรีจัดการปัญหานี้ได้เชื่อว่าสนามเลือกตั้งในกรุงเทพฯ พรรคภูมิใจไทยจะมา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างทำกิจกรรมที่สนามฟุตบอล โปโลฟุตบอลพาร์ค เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายชูวิทย์ ได้เข้าไปคุยกับนายกรัฐมนตรีระหว่างชมเกมการแข่งขันฟุตบอลในสนาม โดยมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและหัวเราะเฮฮา ซึ่งขณะที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ นายชูวิทย์ ก็เดินมายืนฟังอยู่ด้านหลังด้วย และพยายามสะกิดนายกรัฐมนตรีให้ออกจากวงสัมภาษณ์เพื่อมาพูดคุยกับตนเอง ก่อนจะเดินไปส่งนายอนุทินขึ้นรถกลับ ซึ่งทั้งคู่ได้สวมกอดกันอย่างเป็นกันเอง และนายกรัฐมนตรีก็ยิ้มและหัวเราะด้วย.