“อัยรินทร์” รองโฆษกรัฐบาล ย้ำประชาชนลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส” เริ่ม 20-26 ต.ค.นี้ ตั้งแต่ 06.00-22.00 น. เริ่มใช้จ่าย 29 ต.ค. พร้อมเตือนอย่าตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ แนะอย่ากดลิงก์ลงทะเบียนปลอม


วันที่ 19 ตุลาคม 2568 นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระแสโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ของรัฐบาลภายใต้การนำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีประชาชนและผู้ประกอบการให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยความคืบหน้านับตั้งแต่เริ่มลงทะเบียนในส่วนผู้ประกอบการร้านค้า เมื่อวันที่ 15-17 ตุลาคม 2568 ณ เวลา 12.00 น. พบว่า มีร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส สำเร็จแล้ว 123,960 ราย แบ่งเป็น 1. ร้านค้ารายเดิม 72,185 ราย และ 2. ร้านค้ารายใหม่ 51,775 ราย ส่วนร้านค้าที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการสมัคร 98,064 ราย แบ่งเป็น 1. รอให้ร้านค้าเข้ามากดยอมรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการฯ 91,917 ราย และ 2. รอดำเนินการตรวจสอบ 6,147 ราย

“ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจและมีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด สามารถทยอยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโครงการจะเปิดให้เริ่มสแกนรับเงินจากประชาชนได้จริงในวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ซึ่งร้านค้าสามารถลงทะเบียนได้จนกว่ากระทรวงการคลังจะปิดรับสมัครร้านค้าในวันที่ 19 ธันวาคม 2568”

ในส่วนของประชาชน โครงการคนละครึ่งพลัสจะเปิดให้เริ่มลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตั้งแต่วันที่ 20-26 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับสิทธิร่วมโครงการฯ จะเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2568

...

ทั้งนี้ ปัจจุบันกระแสความนิยมของประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้าที่มีต่อโครงการฯ ได้รับความสนใจทั่วประเทศ จึงเป็นเหตุให้เหล่ามิจฉาชีพพยายามฉวยโอกาสหลอกลวงประชาชนหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการส่งลิงก์ปลอมมาหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวและดูดทรัพย์ของประชาชน ซึ่งปัญหาดังกล่าวรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในเบื้องต้นขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของตำรวจไซเบอร์ ดังนี้

1. อย่ากดลิงก์จาก SMS/ข้อความแปลกปลอม เนื่องจากโครงการรัฐ จะไม่ส่งลิงก์ลงทะเบียนผ่านข้อความ

2. อย่าหลงเชื่อเพจ/บัญชีโซเชียลที่ไม่เป็นทางการ และขอให้ ปชช. ตรวจสอบว่ามีเครื่องหมายยืนยัน (✔ Verified) และผู้ติดตามจริงหรือไม่ โดยการลงทะเบียนที่ถูกต้องนั้น ทำได้เฉพาะแอปฯ “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน”

3. อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว อาทิ เลขบัตรประชาชน, วันเกิด, PIN, OTP, ข้อมูลบัญชีธนาคาร

4. อย่าเชื่อสายโทรศัพท์ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ โดยหน่วยงานรัฐและธนาคาร ไม่มีนโยบายโทรขอ OTP หรือให้โอนเงิน

5. ตรวจสอบข้อมูลทุกครั้ง หากมีความสงสัยให้โทรศัพท์สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง และอย่าแชร์ข้อมูลจากข่าวลือ/เพจที่ไม่น่าเชื่อถือ

“หากประชาชนได้รับลิงก์ปลอม ขอให้พิจารณา ตั้งสติ และไม่กดลิงก์ ส่วนกรณีประชาชนเผลอกดลิงก์ปลอมและได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงออนไลน์ ขอให้ดำเนินการแจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th หรือ โทร.สายด่วนที่ 1441 เพื่อระงับบัญชีคนร้ายภายใน 72 ชั่วโมง และรีบเข้าพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน”