พรรคประชาธิปัตย์คึกคัก เลือดเก่าไหลกลับ หนุน “อภิสิทธิ์” นั่งหัวหน้า “ชวน” ควง “ปลื้ม” เดินชมภาพวาดลายเส้น ด้าน “เฉลิมชัย” ลาประชุมให้ “ประมวล-เดชอิศม์” ทำหน้าที่แทน “วัชระ” ซัดแรงค้าน “ว่าที่รองหน.พรรค” บางคน


เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 ต.ค. 2568 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2568 ของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าและกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีสมาชิกและอดีต สส. ที่ลาออกไปแล้ว และหวนกลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคใหม่ทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุมที่จะเริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แคนดิเดตหัวหน้าพรรค เดินทางถึงในเวลา 08.35 น. พร้อมกับว่าที่คณะ กก.บห. อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช, นางการดี เลียวไพโรจน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอนาคตศาสตร์และสินทรัพย์ดิจิทัล, นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี, นายวีระพงษ์ ประภา อดีตผู้แทนการค้าไทย, นายสกลธี ภัทธิยกุล และ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ว่าที่โฆษกพรรค โดยทันทีที่นายอภิสิทธิ์ ถึงห้องประชุมก็เดินทักทายสมาชิกพรรคที่เป็นคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ และยังมีนายกฯ องค์การนักศึกษารามคำแหง (อศมร.) และนายกฯ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏฯ 6 จังหวัดภาคใต้ ร่วมมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ และยังมีสมาชิกพรรคบางส่วนเข้ามาสวมกอด และยืนยันกับนายอภิสิทธิ์ ว่าจะให้การสนับสนุนเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ได้กลับมาพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใจไม่เคยไปไหน


จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้เดินทักทายสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ รวมไปถึงแกนนำ ที่เคยร่วมอุดมการณ์กันมา อาทิ นายสาทิตย์ วงหนองเตย, นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ, นายสาธิตต์ โพธิวิหค อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ, นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่า กทม. เป็นต้น ซึ่งภายในห้องประชุมก็ยังมีสมาชิกหลายคน ชูป้ายขอสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่

...


“ชวน” ควง “ปลื้ม” เดินชมภาพวาดลายเส้น


ขณะที่นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคพร้อมนายสุรบถ หลีกภัย บุตรชาย อดีต สส.บัญชีรายชื่อ มาถึงพร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการภาพวาด “ชาวประชาธิปัตย์” จากลายเส้น... ชวน หลีกภัย โดยนายสุรบถได้กล่าวชมภาพวาดของนายชวน ว่า ลายเส้นสวย


“เฉลิมชัย” ลาประชุมให้ “ประมวล-เดชอิศม์” ทำหน้าที่แทน


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ลาการประชุม ขณะที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการเลขาธิการพรรค ได้เดินทางมาร่วมประชุมแล้วและทำหน้าที่ดำเนินการประชุมพร้อมกับนายประมวล พงษ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ และประธาน สส.พรรค ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค และเป็นที่น่าสังเกตว่ามีอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในยุคของนายอภิสิทธิ์ ได้กลับมาสมัครสมาชิกพรรคอีกครั้ง ซึ่งบรรยากาศโดยรวมในการประชุมครั้งนี้มีความคึกคักมากเป็นพิเศษ


“วัชระ” หนุน “มาร์ค” แต่ค้าน “ว่าที่รองหน.พรรค” บางคน


ด้าน นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ประชาชนชาวสุราษฎร์สั่งตนให้มาสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 7 ให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้งหนึ่ง

แต่ตนขออนุญาตคัดค้านบางคนที่ปรากฏชื่อว่าจะเป็นรองหัวหน้าพรรคเพราะเหตุว่า เคยได้เป็นรัฐมนตรีในนามพรรค แต่ไม่เคยรับผิดชอบช่วยเหลือสมาชิกพรรคเลย รับปากแต่ไม่เคยทำ ไม่เคยแก้ปัญหาให้ชาวบ้านหรือข้าราชการ อยากเป็นรัฐมนตรีจนตัวสั่น เดินไหว้ทุกคนในบ้านอดีตหัวหน้าพรรค ไหว้แม้แต่แม่ครัว คนรับใช้ เพื่อขอเป็นรัฐมนตรี เมื่อพอได้เป็นแล้วก็เปลี่ยนนิสัย ตระบัดสัตย์ เย่อหยิ่ง จองหอง

พอไปลง สส.บ้านเกิด กลับแพ้ไม่เป็นท่า เพราะประชาชนเห็นธาตุแท้ ต่อมาลาออกจากพรรคแล้ว กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ขยันเดินสายออกสื่อด่าพรรคเช้าสายบ่ายเย็น อย่างไม่ละอายใจว่าผู้บริหารพรรคไม่ดีสีเทา ทั้งที่ตัวเองได้เป็นรัฐมนตรีเพราะอดีตหัวหน้าพรรค ไม่เคยส่องกระจกดูตนเองว่า เป็นอย่างไร เห็นแก่ตัวมากเพียงใด อยากเป็นรองหัวหน้าพรรค แต่พอเป็นแล้ว กลับไม่รับผิดชอบดูแลผู้สมัคร หรือสาขาในภาคของตนเลย แล้วพรรคจะเข้มแข็งได้อย่างไร ฉะนั้นอย่ามาเป็นรองหัวหน้าพรรคให้พรรคตกต่ำอีกเลย อย่ามาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จสร้างความหายนะให้กับพรรคซ้ำสองอีก


ลั่น กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ไม่เคยช่วยพรรค


“ผมขอไม่เห็นด้วยกับผู้ที่เคยสมัครเป็นหัวหน้าพรรคแล้วออกจากพรรคเพราะอยากเป็นใหญ่ ทั้งที่เคยพูดกับสมาชิกไม่ย้ายพรรค แต่พอแพ้แล้ว ไปตั้งพรรคใหม่กันทุกคน ตั้งพรรคแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ ผลการเลือกตั้งสอบตกยกพรรคไม่เป็นท่า ย้ายไปกี่พรรคผ่านมากี่น้ำก็ไม่รู้ ไม่มีสปิริต ความภักดีต่อองค์กรอยู่ที่ไหน เคยใช้อิทธิพลบารมีแทรกแซงคดีบุตรชายถูกจับยาเสพติดกลางกรุงเทพฯ หรือไม่ แบบนี้จะเป็นนักประชาธิปไตยมานำพรรคได้อย่างไร สมาชิกพรรคทั้งประเทศควรได้รู้ความจริงและพิจารณาร่วมกัน สำหรับผม ผมไม่ศรัทธาและไม่เลือกบุคคลแบบนี้ และในภาวะวิกฤตนี้ผมเลือกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค และอยากให้สามัคคีกันทุกฝ่าย เพราะหากไม่สามัคคีกันอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ” นายวัชระ กล่าว









ภาพ : ธนัท ชยพัทธฤทธี