เลือกตั้งซ่อม สส.กาญจน์เขต 4 ดุเดือด "ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์" มท.3 โร่ขึ้นโรงพัก แจ้งความดำเนินคดี "ณัฐวุฒิ" ข้อหาหมิ่นประมาท ปมนำภาพขณะนั่งรอลูกสาวหาเสียงที่อำเภอบ่อพลอยไปโพสต์ ทำคนเข้าใจผิด
วันที่ 17 ต.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 4 แทนตำแหน่งที่ว่าง จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 ต.ค.2568 นี้ มีผู้สมัครจากพรรคการเมือง 2 คน ประกอบด้วย นางสาววิสุดา วิเชียรศิลป์ หรือน้องดรีม พรรคภูมิใจไทย(ภท.) เบอร์ 1 และ พล.อ.ดร.ชินวัฒน์ แม้นเดช หรือ บิ๊กเลน พรรคเพื่อไทย(พท.) เบอร์ 2 การหาเสียงถือว่าเริ่มเข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว โดยผู้สมัครจากทั้ง 2 พรรค ยังมีเวลาไปจนถึงเวลา 18.00 น.ของวันเสาร์ที่ 18 ต.ค.68 จากนั้นต้องหยุดหาเสียงในทันที
ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ พบว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัฒน์ ทีมหาเสียงของ พล.อ.ดร.ชินวัฒน์ แม้นเดช หรือ บิ๊กเลน ผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย(พท.)เขต 4 เบอร์ 2 ได้โพสต์เฟซบุ๊ก โดยนำภาพขณะที่ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และเป็นบิดาของนางสาววิสุดา วิเชียรศิลป์ หรือน้องดรีม ผู้สมัคร สส.กาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 1 มาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับระบุข้อความเอาไว้ว่า “เลือกตั้งซ่อมเขต 4 กาญจนบุรี สถานการณ์กำลังเข้มข้น รมต.ศักดิ์ดาท่านขยันดี ช่วงเที่ยงวันนี้ ขึ้นไปที่ว่าการอำเภอบ่อพลอยในเขตเลือกตั้ง เข้าไปนั่งในห้องนายอำเภอ สั่งการโน่น นั่น นี่ เย็นนี้ข่าวว่าจะนัดผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ กินข้าวที่บ้านนายอำเภอด้วย สื่อมวลชนว่างๆไปดูได้ ท่านคงไม่ว่าหรอก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ห่วงว่าข้าราชการจะเป็นกลางมาก มาก ถึงมากที่สุด”
...
หลังจากรูปภาพและข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปได้ไม่นาน มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยังนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ โดยนายศักดิ์ดา ได้กล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงว่า วันนี้ลูกสาวผมพร้อมทีมงานได้ออกเดินสายพบปะพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ ซึ่งภาพที่ปรากฏนั้นตนไปที่ที่ว่าการอำเภอบ่อพลอย เพื่อรอการหาเสียงของลูกสาว โดยไม่มีอะไรแอบแฝง เพราะที่ว่าการอำเภอใครๆ ก็สามารถไปได้ หลังจากนั้นลูกสาวก็เดินทางไปหาเสียงทั้งในพื้นที่อำเภอหนองปรือ และอำเภอเลาขวัญ ซึ่งขณะหาเสียงผมไม่ได้ไปด้วย จึงหาสถานที่นั่งรอ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ จนกระทั่งไปถึงพื้นที่อำเภอเลาขวัญ ผมจึงทราบและเห็นข่าวว่าคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย นำรูปภาพไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก พร้อมระบุข้อความดังกล่าว ดังนั้นผมจึงเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เลาขวัญ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ทำให้ตัวผมได้รับความเสียหายและทำให้เสียชื่อเสียง อีกทั้งยังทำให้เสียคะแนนนิยมอีกด้วย
การที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทย แต่มาใส่ร้ายกันเช่นนี้ จำเป็นต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท ต่อนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส่วนจะเข้าข่ายผิดกฎหมายข้ออื่นด้วยหรือไม่ ขอตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง