“บวรศักดิ์” เรียกฝ่ายความมั่นคง ถกลับแนวทางยกเลิก MOU 43-44 ศึกษาข้อดีข้อเสีย บอก ถึงเวลาจะพูด ด้าน “ไชยชนก” เผยทุกภาคส่วนพร้อมรับทุกทางเลือก ยอมรับหากยกเลิกต้องตั้งคณะฯ ศึกษาเชิงลึก
วันที่ 17 ตุลาคม 2568 ที่ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาประชุมหารือแนวทางการยกเลิก MOU 43-44 โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณา MOU 43-44 สภาผู้แทนราษฎร พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานความมั่นคง เข้าร่วมด้วย
โดย พล.ท.อดุลย์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า เป็นแค่การหารือกันเบื้องต้น ไม่มีอะไรเลย ส่วนรายละเอียดให้สอบถามนายบวรศักดิ์ ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกกระทรวงยุติธรรม ปฏิเสธเปิดเผยรายละเอียดผลการประชุม และให้ไปสอบถามนายบวรศักดิ์เช่นกัน
ขณะที่นายบวรศักดิ์ ได้เดินมาขึ้นรถที่ลานจอดชั้นใต้ดิน เพื่อเดินทางออกจากตึก สลค. ผู้สื่อข่าวได้พยายามตะโกนสอบถามถึงผลการหารือ นายบวรศักดิ์ จึงลดกระจกรถยนต์ลง และตะโกนบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “ถึงเวลาจะพูด”
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยเป็นการหารือเรื่องข้อดีข้อเสีย และแนวทางที่จะดำเนินการต่อไป ซึ่งกองทัพเป็นผู้เสนอ และหลังจากนี้ จะให้หน่วยงานต่างๆ แยกย้ายไปทำข้อมูล เพื่อนำกลับมาส่งให้กับรัฐบาล
เมื่อถามว่า กรมแผนที่ทหารมีความกังวลในการยกเลิก MOU หรือไม่ เพราะส่งผลต่อการปักปันเขตแดน แหล่งข่าวระบุว่า ทหารได้หมดอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะทางไหนก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งต้องนำข้อดีมาใช้ประโยชน์ และแก้ไขข้อเสีย ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีความกังวลในเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศแต่อย่างใด
...
“ไชยชนก” เผยทุกภาคส่วนพร้อมรับทุกทางเลือกปม MOU 43-44
ด้านนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณา MOU 43-44 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังการประชุมหารือแนวทางการยกเลิก MOU 43-44 ว่า ทุกภาคส่วนนำโดย นายบวรศักดิ์ ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีมาก โดยแนวโน้มที่ประชุมมีความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายความมั่นคง รัฐบาล ทำให้มั่นใจว่า ประเทศไทย และรัฐบาลจะมีความพร้อมมากขึ้น ไม่ว่าผลของการทำประชามติจะออกมาในรูปแบบใด ที่ทำให้ไทยได้เปรียบมากขึ้นจากทุกสถานการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งทุกฝ่ายก็จะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จะยึดแนวทางการทำประชามติ ไม่ใช้มติคณะรัฐมนตรีเพื่อยกเลิกใช่หรือไม่ นายไชยชนก ระบุว่า ปัจจุบันยังเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล แต่ในการเตรียมพร้อมสำหรับผลลัพธ์ ได้เตรียมทั้งการทำประชามติไม่ยกเลิก ยกเลิก หรือปรับปรุง ซึ่งการเตรียมตัวในครั้งนี้จะทำให้มีความพร้อมเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลง หากยกเลิกหรือการตัดสินใจอย่างอื่น มั่นใจว่ามีความพร้อม ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น ในการประชุมของฝ่ายรัฐบาลเป็นแนวทางที่ดีขึ้น เพื่อให้มีความพร้อมกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ย้ำว่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน และทุกคนกำลังร่วมมือกันหาแนวทางเพิ่มเติม ซึ่งสิ่งที่นายบวรศักดิ์ รับฟังทั้งฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศ ก็ให้เตรียมศึกษาทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้ความเป็นธรรมเพราะทุกฝ่ายดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลนั้นๆ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งว่า ที่ผ่านมานโยบายทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ไปศาลโลก ขณะนี้นโยบายของรัฐบาลไม่ใช่การไปสู้กันในศาลโลก แต่นายบวรศักดิ์ ได้ให้นโยบายว่าจะต้องเตรียมพร้อม หากไทยต้องไปศาลโลก ไทยก็จะได้เปรียบมากขึ้น
ยอมรับหากยกเลิกต้องตั้งคณะฯ ศึกษาเชิงลึก
นายไชยชนก ยอมรับว่า ขณะนี้มีหลายแนวทาง ซึ่งในรายละเอียดขอให้แต่ละภาคส่วนไปศึกษาเพิ่มเติม ก่อนนำมาเสนอ เพื่อไม่ให้เกิดความกดดันของสังคมเพิ่มเติม แต่ยืนยันว่า MOU 43-44 มีการศึกษาแยก ตรงไหนที่มีข้อได้เปรียบ หรือ ข้อกังวล ทุกอย่างจะถูกพิจารณาหมดเพื่อหาแนวทางทุกรูปแบบ สำหรับการประชุมในครั้งต่อไปยังมีการกำหนด ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละหน่วยงาน
ส่วนฝ่ายทหารมีความกังวลหรือไม่ นายไชยชนกยอมรับว่าทุกฝ่ายมีความกังวลอยู่แล้ว ทั้งประชาชนและทหาร รวมถึงความเป็นไปได้ของผลกระทบระหว่างประเทศ และทรัพยากร ดังนั้นทุกคนจึงตั้งใจที่จะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้น สำหรับข้อกังวลอื่นๆ รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ มีความสัมพันธ์ที่ดี และมีความสามัคคีในการร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน
นายไชยชนก ยังกล่าวว่า ที่ประชุมได้พูดคุยถึงกรณี หากมีการยกเลิก MOU 43-44 ว่า จะมีการให้ตั้งคณะฯ เพื่อเสนอเชิงลึกในหลากหลายรูปแบบ