"ไชยชนก ชิดชอบ" ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉยปราบ "สแกมเมอร์" พร้อมตั้งเป้าหมายปราบเรื่องนี้ใน 4 เดือน เตรียมบิน UN ลงนามความร่วมมือนานาชาติ
วันที่ 16 ต.ค. 2568 นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงการปราบปรามสแกมเมอร์หลังมีการตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แต่ถูกตั้งคำถามว่ารัฐบาลนิ่งเฉย โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่กระทรวงดีอีเดินหน้ามามากแล้ว
ส่วนการตั้งคณะกรรมการโดยนายกฯ เป็นประธานเอง เป็นสิ่งที่ดีที่ทุกองคาพยพทำงานร่วมกันที่ทรงพลัง หากดูจากรายชื่อของคณะกรรมการ มีหลายหน่วยงานรวมถึงหน่วยงานทหารด้วย โดยตั้งเป้าหมายปราบเรื่องนี้ใน 4 เดือน
สำหรับจะปราบให้หมดเลยหรือไม่นั้น นายไชยชนก กล่าวว่า มีหลายปัจจัยทั้งด้านการต่างประเทศที่เกี่ยวข้องในกัมพูชา ซึ่งมีข้อจำกัดระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพ หากเกิดในประเทศไทย ตำรวจมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเต็มที่ แต่หากข้ามแดนไป ตำรวจและทหารของไทยจะไม่สามารถทำอะไรได้
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ตนสั่งการให้ศึกษาแล้ว และเตรียมจะเสนอให้คณะกรรมการ คือการศึกษากฎหมายใหม่ 'Active Cyber Defence 2025' ที่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่งออกมา ซึ่งมีหลายประเทศทำในลักษณะคล้ายกัน เป็นกฎหมายที่ตอบโต้ทางไซเบอร์ได้ ยกตัวอย่าง มีการคุกคามเราทางไซเบอร์ เราสามารถมีทีมงานเฉพาะ หรือคณะกรรมการอนุมัติเรื่องต่อเรื่องและแฮกกลับได้ โดยไม่ได้ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ เวียดนามก็ทำ ญี่ปุ่นก็ทำ ซึ่งปลายเดือนนี้ตนจะลงนามความร่วมมือที่สหประชาชาติด้วย
...
เมื่อถามว่า กรณีฝ่ายค้านเปิดตัวละครอย่างนายเบน สมิธ มีความสัมพันธ์กับคนในรัฐบาล เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรฯ นายไชยชนก กล่าวว่า ในเชิงลึกแบบนี้คงตอบไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สิ่งที่ทำได้คงต้องรับไปตรวจสอบ แต่เมื่อนายกฯ ได้ตั้งคณะกรรมการแล้ว ทุกคนต้องรวบรวมข้อเท็จจริงและส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงดำเนินการ อาจจะไม่ใช่แค่กระทรวงดีอี แต่รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง ทำให้การแก้ปัญหาสแกมเมอร์ล่าช้าสะดุดลง นายไชยชนก กล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่ที่ผ่านมาเราเดินเต็มที่มาโดยตลอดและจะเดินเต็มที่ต่อไป หากถามว่ามีอุปสรรคไหม ตั้งแต่ตนประกาศตัวมาเจออุปสรรครุมเร้ามาก ก็สงสัยเหมือนกัน คนคิดดีทำดี ทำงานเต็มที่ กลายเป็นว่าโดนหมดทุกทางมากกว่าเดิม เป็นเรื่องที่น่าคิด แต่ก็สรุปอะไรไม่ได้ เราไม่มีหลักฐาน แต่ถ้ามีหลักฐานก็ดำเนินการเต็มที่ และกลุ่มที่ตั้งข้อสังเกตและนำเสนอ หากมีหลักฐานก็ควรนำมาให้ชัดเจน ช่วยกันดำเนินการเร็วขึ้น
เมื่อถามว่า ตอนนี้สหรัฐฯ ยึดทรัพย์นักธุรกิจบิตคอยน์ ประเทศไทยจะดำเนินการด้วยหรือไม่ นายไชยชนก กล่าวว่า ก็เดินไปให้สุดทุกทาง การที่นายกฯ ตั้งคณะกรรมการฯ ก็คงจะเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ
ส่วนความคืบหน้าตรวจสอบเงินสินบน 40 ล้าน แลกกับการไม่เดินหน้าปราบปรามสแกมเมอร์นั้น นายไชยชนก กล่าวว่า เพื่อความชัดเจน ตอนนี้สแกมเมอร์หรือไม่ ไม่แน่ใจ แต่เว็บที่ตรวจสอบพบถือว่าใช่ จะโยงสแกมเมอร์หรือไม่ต้องแยกกันก่อน โดยขอให้รอชมความคืบหน้าในการตรวจสอบ
เมื่อถามย้ำว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.ดีอี ทวงถามว่าตรวจสอบถึงไหนแล้ว นายไชยชนก กล่าวว่า รอชม ตอนแรกคิดว่า 30 วัน แต่ตอนนี้ทราบข้อมูลว่าเร็วกว่านั้น ขอให้รอชมเร็วๆ นี้.