นายกฯ ตั้ง “เอกนิติ” ปธ.คณะทำงานยุทธศาสตร์เจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ร่วม 6 รมต.กระทรวงหลัก เผยหารือคมนาคมจ่อลดค่าเดินทางให้ประชาชน แต่ไม่เสียวินัยการคลัง “พิพัฒน์” ยันประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
วันที่ 14 ตุลาคม 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ CB 406 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา โดยมีข้อสั่งการในที่ประชุม ครม. ดังนี้
นายกรัฐมนตรีขอบคุณคณะรัฐมนตรีทุกท่านที่ได้ลงพื้นที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเยียวยาให้กับประชาชน สร้างความเชื่อมั่นในการดูแลของรัฐบาลเมื่อประชาชนประสบความเดือดร้อน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางเยือนมาเลเซียในลักษณะ Working Visit เพื่อเข้าร่วมการหารือ 4 ฝ่าย ระหว่างมาเลเซีย สหรัฐฯ ไทย และกัมพูชา ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โดยมีความคืบหน้าผลการหารือไปในทางที่ดีมาก ประเทศไทยได้รับการตอบสนองในเงื่อนไขต่างๆ เพื่อที่จะนำไปสู่การดำเนินการขั้นต่อไป ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางไปหารืออีกครั้ง ภายในสัปดาห์นี้
ในที่ประชุม ครม. นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ และการเร่งสรุป FTA กับสหภาพยุโรป เพื่อวางรากฐานทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ของประเทศในระยะยาว ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการในช่วง 4 เดือน สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทย และนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบในวงกว้าง รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเร่งการเจรจาเพื่อลดภาษีให้ต่ำกว่าหรืออย่างน้อยไม่เกินระดับปัจจุบันที่ร้อยละ 19 เพื่อปกป้องภาคการส่งออก เกษตร อุตสาหกรรม การจ้างงาน และเศรษฐกิจโดยรวม
...
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะทำงานยุทธศาสตร์เจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยมี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ร่วมกับรัฐมนตรีจาก 6 กระทรวงหลัก เพื่อบูรณาการการทำงานและขับเคลื่อนในระดับนโยบาย และสิ่งที่สหรัฐฯ เรียกร้องหลายประเด็นสอดคล้องกับสิ่งที่ควรปรับปรุงอยู่แล้ว อาทิ กฎระเบียบ การบังคับใช้กฎหมาย หรือมาตรฐานสินค้า
นายกรัฐมนตรีย้ำว่าการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ และ FTA ไทย-EU เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ขอให้รัฐมนตรีทุกคนกำชับและสั่งการในเรื่องที่จำเป็นกับผู้เข้าร่วมการเจรจาในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อช่วยกันหาทางออกให้การเจรจาสามารถจบลงได้ในเวลาอันเหมาะสม และนำมาซึ่งผลประโยชน์ในภาพรวมของประเทศ
ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาการให้ความช่วยเหลือประชาชน ในกรณีที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยหลายครั้ง หากมีความจำเป็นต้องทบทวนมติ ครม. ก็ให้เร่งดำเนินการเสนอมาที่ ครม. โดยเร็ว
ภายหลังการประชุม ครม. นายอนุทิน ยังได้เปิดเผยถึงการหารือร่วมกับ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า ได้มีการหารือกันหลายประเด็น รวมถึงการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับประชาชน สำหรับการชดเชยค่าเดินทางให้กับประชาชนตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ ให้มีความสมเหตุสมผลมากที่สุด และไม่ให้เสียวินัยการเงินการคลัง ซึ่งเรื่องนี้แนวทางการช่วยเหลือจะเกิดขึ้นแน่ เพราะเรื่องของประชาชนเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุดสำหรับทุกรัฐบาล เพราะทำงานทุกวันนี้ก็ทำให้ประชาชน
ทางด้าน นายพิพัฒน์ กล่าวว่า แผนการลดค่าเดินทางให้ประชาชน เรื่องนี้ต้องใจเย็นเพราะต้องใช้เวลา โดยมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ส่วนตัวพูดเรื่องนี้คนเดียวคงไม่จบ ขณะนี้กำลังดำเนินการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแล เช่น กระทรวงคมนาคม จะดูว่าจะทำด้านใดบ้างให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนจะมีการลดค่าเดินทางสำหรับรัฐบาลชุดนี้อยู่ในอัตราเท่าไหร่ นายพิพัฒน์ตอบว่า เรื่องนี้ต้องหารือก่อน จากนั้นกล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีถนนสามเสนยุบตัวหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ส่วนข้อสรุปนั้นขอให้ใจเย็น เพราะไม่ใช่เรื่องง่าย.