เพื่อไทยยกเครื่องครั้งใหญ่ “ภูมิธรรม” ลั่น ฟื้นหัวใจกลับมาเต้นตามจังหวะของประชาชน รวมพลังรุ่นที่สร้าง-รุ่นที่สานต่อ เชื่อ ประชาธิปไตยต้องกินได้ สร้างโอกาสเพื่อเปลี่ยนชีวิตคนได้จริง


วันที่ 14 ตุลาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า สถานการณ์การเมืองในวันนี้ ทำให้พรรคการเมืองทุกพรรคต้องทบทวนตัวเองว่าเข้าใจหัวใจของประชาชนมากพอหรือไม่ ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองเผชิญความซับซ้อน ทั้งเศรษฐกิจที่เปราะบาง ความเหลื่อมล้ำที่ขยายตัว และความศรัทธาทางการเมืองที่ลดลง

พรรคเพื่อไทยเลือกที่จะยกเครื่องตัวเองใหม่ทั้งหมด เพราะเรารู้ว่าหากจะยกเครื่องประเทศได้จริง เราต้องเริ่มจากการยกเครื่องพรรค ทั้งวิธีคิด วิธีทำงาน และวิธีฟังเสียงประชาชน การยกเครื่องพรรคเพื่อไทยไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนเพียงโครงสร้าง แต่คือการฟื้นหัวใจของพรรคให้กลับมาเต้นตามจังหวะของประชาชน ด้วยหัวใจที่เชื่อว่าประชาธิปไตยต้องกินได้ และการเมืองต้องสร้างโอกาสเพื่อเปลี่ยนชีวิตคนได้จริง

...


นายภูมิธรรม เผยต่อไปว่า พรรคเพื่อไทย พรรคที่เกิดจากประชาชนและยืนอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ กว่า 20 ปีของเส้นทางพรรคเพื่อไทย เราผ่านทั้งความสำเร็จ ความสูญเสีย และการทดสอบมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือหัวใจของพรรคนี้ไม่เคยทิ้งประชาชน เราเชื่อมั่นเสมอว่าประชาธิปไตยกินได้ เพราะประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่ได้อยู่แค่ในคูหาเลือกตั้ง แต่อยู่ในชีวิตประจำวันของคนที่มีโอกาส มีงาน มีรายได้ และมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ นั่นคือจุดแข็งของพรรคเรา พรรคที่คิดเป็นระบบ ทำได้จริง ไม่ใช่พรรคที่ขายความฝัน แต่เป็นพรรคที่ลงมือสร้างความจริงให้เกิดขึ้น

การยกเครื่องพรรค เพื่อยกเครื่องประเทศ ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้ พรรคเพื่อไทยได้เริ่มต้นยกเครื่องครั้งใหญ่ ทั้งโครงสร้างภายใน และแนวทางการขับเคลื่อนประเทศในอนาคต เราสร้างเวที Moonshot - ตาดูดาว เท้าติดดิน เพื่อเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่และนักคิดจากทั่วประเทศ เราตั้งสำนักนโยบาย เพื่อกลับสู่ DNA ดั้งเดิมของพรรคไทยรักไทย ที่ใช้ข้อมูลและงานวิจัยขับเคลื่อนนโยบาย เราปรับระบบบริหารให้โปร่งใส มีเอกภาพ และกระจายอำนาจไปยัง 5 ภูมิภาค เราเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเรียนรู้ใน “Young Professionals Program” เพื่อเตรียมคนรุ่นใหม่เข้าสู่สนามจริง ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่การปรับโครงสร้างองค์กร แต่คือการประกาศว่า “พรรคเพื่อไทยพร้อมพัฒนา ไม่หยุดนิ่ง ไม่ยึดติดอดีต”

“พรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคของทุกคน เราทราบดีว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่เคยศรัทธาในพรรคนี้ แต่ต่อมารู้สึกห่างเหิน เพราะมองว่าเราอาจอยู่ไกลจากประชาชนเกินไป วันนี้เรากำลังพิสูจน์ว่าเราได้กลับมาแล้วด้วยหัวใจเดิม แต่ด้วยวิธีการที่ใหม่ เรากำลังรวมพลังระหว่าง รุ่นที่สร้าง และรุ่นที่สานต่อ เพื่อทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นพื้นที่ของทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน ถ้าคุณอยากเห็นประเทศนี้ดีกว่าเดิม คุณมีที่ยืนในพรรคนี้แน่นอน”

ก่อนที่ นายภูมิธรรม จะทิ้งท้ายว่า จากอดีตที่ยืนหยัด สู่อนาคตที่ไม่หยุดเดิน พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าด้วยอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่กินได้ ด้วยนโยบายและทางเลือกที่สอดคล้องและเปลี่ยนชีวิตคนได้จริง และด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้โอกาสกลับคืนสู่มือประชาชน.