“อนุทิน” ย้ำกองทัพมีอำนาจเต็มที่ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่ เมินมองเปิดเสียงรบกวน ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง ย้อนถามยิงจรวดและระเบิดเข้าไทยก็ละเมิดอธิปไตย ทำลายชีวิตประชาชน


วันที่ 14 ต.ค. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่เกาหลีใต้กดดันกัมพูชาให้แก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ ว่า เรื่องการปราบสแกมเมอร์เป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ไทยกำลังหารือกับกัมพูชา ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เราขอให้กัมพูชาทำ  สำหรับกรณีที่มีหลายประเทศออกมาเรียกร้องให้กัมพูชาแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว เป็นไปได้หรือไม่ว่าไทยจะเพิ่มความเข้มข้นในการแฉกระบวนการคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชานั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การเจรจาแก้ปัญหาระหว่างสองประเทศ

รอ กัมพูชา ยอมแก้ไข

ส่วนที่เกาหลีใต้ขู่จะจัดการกับสแกมเมอร์ จะสามารถกดดันให้การปราบปรามสำเร็จหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรามีอธิปไตยของเรา ฉะนั้นหาก 4 ประเด็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะไปพูดคุยสำเร็จ ก็จะทำให้ภัยที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศลดลง ในกรณีที่กัมพูชายอมแก้ไข

หนุนกองทัพรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง

อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ปฏิเสธตอบกรณีที่นักวิชาการแสดงความกังวลต่อการเปิดเสียงรบกวนที่บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว พร้อมกล่าวถึงกรณีที่กองทัพภาคที่ 1 เริ่มใช้เครื่องจักรกลในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ชาวกัมพูชารุกล้ำพื้นที่ไทยบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ว่า กองทัพก็มีอำนาจในการดำเนินการในพื้นที่ที่เป็นปัญหา ซึ่งเป็นการใช้พ.ร.บ. กฎอัยการศึกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการดำเนินการอะไรถือว่ากองทัพมีอำนาจเต็มที่ในการตัดสินใจ และรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนในการตัดสินใจ

...

ย้อนยิงจรวดก็ละเมิดสิทธิ์

ส่วนกรณีที่โฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชามองว่าการเปิดเสียงรบกวนจากฝั่งไทยถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง นายอนุทิน ระบุว่า นายกรัฐมนตรีของไทยมองว่าระเบิดและจรวดที่ยิงเข้ามาในเขตไทยจากฝั่งกัมพูชาก็เป็นการทำอันตรายกับประชาชนไทย ขณะเดียวกันโดรนที่บินเข้ามาในเขตไทย ตนก็มองว่าเป็นสิ่งที่ละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย

ไม่สนใครมองรัฐบาลหนุน

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าจะเป็นการถูกตีความว่ารัฐบาลอนุญาตให้สามารถทำได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่ทราบ ทุกคนต้องทำตามกฎหมาย ใครจะมองอะไรก็มองได้หมด แต่เราต้องใช้กฎหมายเป็นตัวกำหนด

ให้กำลังใจ มทภ.2

ส่วนกรณีที่มีกระแสวิจารณ์การทำงานของแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ จะมีการให้กำลังใจหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าก็ต้องให้กำลังใจคนของเรา ให้กำลังใจทหาร และเจ้าหน้าที่ รวมถึงข้าราชการฝ่ายปกครองที่อยู่ในพื้นที่ข้อพิพาท ซึ่งเราต้องให้กำลังใจอย่างเต็มที่ และสนับสนุนทุกอย่างให้สามารถทำงานได้ เพื่อนำชัยชนะ ปกป้องประชาชน และปกป้องอธิปไตยของประเทศได้

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวยังถามย้ำถึงกรณีของ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลังด้วย แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนจะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที