“สว.นพดล” เผย กมธ.วุฒิสภา เก็บข้อมูลชายแดน จ.ตราด มองแม้ไร้ MOU 43-44 ยังมี คกก. GBC, RBC และ JBC เผย “อภิสิทธิ์” ตอบรับ 28 ต.ค. แจงชงยกเลิก MOU 44 สวน “พิธา” ยัน สว.เป็นกลาง ยึดประโยชน์ชาติ


วันที่ 12 ตุลาคม 2568 นายนพดล อินนา ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา กล่าวถึงความคืบหน้าในการศึกษา MOU 2543-2544 ว่า เมื่อวันที่ 9-10 ตุลาคมที่ผ่านมา กมธ. ลงพื้นที่จังหวัดตราด ไปดูหลักหมุดของเขตไทย-กัมพูชาที่ 73 ซึ่งเป็นหลักหมุดสุดท้าย อยู่บนพื้นที่ No Man's Land โดยได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากจากนาวิกโยธิน กองทัพเรือ เช่น ข้อมูลว่ามีการละเมิดของฝั่งกัมพูชาที่จังหวัดจันทบุรีและตราดหลายครั้ง ฝ่ายไทยประท้วงไปหลายครั้ง

อีกทั้งยังได้รับรายงานว่าฝ่ายกัมพูชาไม่อยากยอมรับหลักหมุดที่ 73 ของไทย และพยายามจะเลื่อนมาทางฝั่งไทย ยังไม่รวมกรณีหลักหมุดที่ 72 ที่สูญหายไป ต้องใช้หลักหมุดชั่วคราว และได้เห็นการสร้างอาคารที่จะทำเป็นแนวดักตะกอนยื่นออกไปในทะเลตรงสุดปลายเขตของไทย ที่เชื่อมระหว่างกัมพูชากับตราด ส่งผลให้มีการกัดเซาะพื้นที่ของประเทศไทย ตนจึงขอให้ทางกองทัพเรือลองนำแผนที่ดาวเทียมแล้วเปรียบเทียบไปเรื่อยๆ จะได้รู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปมันเซาะเท่าไหร่ ซึ่งถ้า กมธ. ไม่ได้ลงพื้นที่เราจะไม่รู้เลยว่ากัมพูชาละเมิดอาณาเขตเรากี่ครั้ง สถานการณ์เป็นอย่างไร ตนจะนำข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ โดยเฉพาะการละเมิดเขตแดนไทยเข้าสู่ที่ประชุม

เมื่อถามถึงการถกเถียงว่าควรยกเลิก MOU 2543-2544 หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ประชาชนยังขาดข้อมูลอยู่ โดยในปี ค.ศ.1909-1910 หลังจาก 3 ปีที่มีไทยได้จันทบุรีและตราดคืนมาแล้ว ตอนนั้นก็มีการปักหลักหมุดไม้เกิดขึ้นตลอดแนวแล้ว หลังจากนั้น 10 ปี ก็มีการปักหลักปูน ที่สำคัญในปี พ.ศ. 2538 ช่วงที่นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ไปเจรจากับกัมพูชา แล้วตั้งคณะกรรมการ GBC และ RBC แล้วหลังจากนั้นจึงเกิด JBC ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดก่อน MOU 2543-2544 ตนมองว่า ไม่ว่าจะมี MOU 2543-2544 หรือไม่ ก็มีคณะกรรมการเหล่านี้อยู่ดีที่รองรับได้

...

“หลักหมุด 73 หลัก ที่ตกลงกันได้ 45 หลัก ถ้าทั้งสองฝ่ายจริงใจต่อกัน ผมคิดว่ายกเลิกหรือไม่ตรงนั้นเขายอมรับอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมาจากพื้นฐานอะไร แต่นี่คือข้อเท็จจริงที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับอยู่แล้ว ถ้าทะเลาะกันมากๆ ถึงมี MOU อยู่ ถ้าเขาจะไม่ยอมรับขึ้นมา มันก็เป็นไปได้หมด ขึ้นอยู่กับการเคารพของแต่ละฝ่าย อันนี้สำคัญ”

นายนพดล เผยต่อไปว่า ตนได้ประสาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี มาให้ข้อมูลกับ กมธ. ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ เพราะขณะที่ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี เคยนำเรื่องเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการยกเลิก MOU 2544 แต่ยังไม่สำเร็จ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ก็ได้รับปากตกลง และตนก็พร้อมพอดี

ส่วนกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดรัฐบาลไม่ใช้กลไกสภาฯ ในการยกเลิก MOU 2543-2544 ทำไมถึงใช้การทำประชามติ นายนพดล ตอบว่า ขณะนี้อย่างน้อยก็มี กมธ.ของ สว.อยู่แล้ว ซึ่งตนได้เรียนกับ กมธ. ตั้งแต่วันแรกว่าเราจะไม่ยึดโยงกับเรื่องอื่น เราจะยึดผลประโยชน์ของชาติและแผ่นดินเป็นหลัก เป็นกลางจริงๆ เราอยากให้ข้อมูลกับประชาชน ศึกษาข้อดี-ข้อเสีย เราจะบอกและให้ข้อมูลเป็นระยะๆ ตนได้ประสานไปยังประธานวุฒิสภาแล้วว่าจะรายงานความคืบหน้า ไม่ประชุมลับ เปิดเผยได้ตลอด อยากให้ประชาชนได้เห็นด้วยว่าเป็นอย่างไร และจะทำอย่างไรต่อ.