“อนุทิน” สั่งการกลางเวที ประกาศสร้างเขื่อน “ชีน้ำร้าย” เป็นชีน้ำดี ช่วยน้ำท่วม จ.สิงห์บุรี  ยอมรับดีใจ จากบ๊วยได้ที่ 1 อีสานโพลคนเลือกนั่งเก้าอี้นายกฯ


วันที่ 10 ต.ค. 2568 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลชีน้ำร้าย จ. สิงห์บุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจราชการน้ำท่วมพร้อมพบปะประชาชน โดยกล่าวบนเวทีว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาพบปะกับพ่อแม่พี่น้อง แต่พี่น้องไม่ค่อยมี มีแต่วัยใกล้พ่อแม่ ซึ่งอายุใกล้เคียงกับตน ทั้งนี้เป็นครั้งแรกของตนในชีวิตมา จ.สิงห์บุรี ตนเคยมาประมาณ 10 กว่าครั้ง แต่ไม่เคยเข้ามาในเมือง จ.สิงห์บุรี แวะกินข้าวแค่ร้านปลาทู กินกุ้งเผา แต่ยังไม่เคยมีโอกาสเข้ามาในอำเภออื่นๆ ของสิงห์บุรี ที่เป็นเช่นนี้เพราะพี่น้องชาวสิงห์บุรียังไม่เคยให้ สส. จึงยังไม่มีโอกาสมา แต่หลังจากนี้หวังว่าจะได้มาทุกเดือนเพื่อมาพบปะกับพ่อแม่พี่น้อง

เปลี่ยนชีน้ำร้าย ให้เป็นชีน้ำดี

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้มาท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยน้ำท่วม ต้องกราบขออภัยเพราะภัย บางทีเราสู้กับธรรมชาติไม่ไหว ต้องพยายามทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ประชาชน ให้เกิดความเสียหายให้น้อยที่สุด และวันนี้ตนมารับปากประชาชนชาวชีน้ำร้าย ที่จะเปลี่ยนน้ำร้ายให้กลายเป็นน้ำดี ซึ่งตนจะสร้างเขื่อนให้กับพี่น้องชาวชีน้ำร้าย จ.สิงห์บุรี เพื่อให้ความเดือดร้อนของประชาชนหายไป

บรรจุงบปี2570 สร้างเขื่อน

นายอนุทิน ยังได้แนะนำ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ และนายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สส. สิงห์บุรี พรรคพลังประชารัฐ แต่ได้พูดชื่อนายโชติวุฒิ จึงพูดขำพร้อมกล่าวแซวตัวเอง “วันนี้เป็นก่งก๊ง เพราะลงจากฮ. แล้วสะดุดล้ม สมองจึงสั่งการปั่นป่วนนิดหน่อย ” ซึ่งทั้งสองคนเปรียบเสมือนเป็นพี่เป็นน้องของตน รู้จักกันทางการเมืองมานาน และวันนี้ได้รับการประสานมาว่าพี่น้องประชาชน มีความเดือดร้อนหลายประเด็น อยากช่วยเร่งแก้ไข และในวันอังคารจะทำหนังสือสั่งการเป็นทางการให้กับ กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อบรรจุเข้าสู่งบประมาณ 2570 และจะดำเนินการให้เรียบร้อย ซึ่งหวังว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับประชาชนต่อไป

...

เห็นรอยยิ้มซาบซึ้งใจ

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม “ใจผมตุ้มๆ ต่อมๆ อยู่ตลอด เดี๋ยวจะโดนด่าโดนว่า แต่ก็ต้องทำใจว่าโดนแน่ ปากก็บอกว่าโดนแน่มึง เพราะท่วมทุกปีเลย แม้จะไม่ได้เกิดจากเราก็แล้วแต่เกิดจากธรรมชาติ แต่วันนี้มาเป็นหัวหน้ารัฐบาล หนีความรับผิดชอบไม่พ้น” ซึ่งตนพยายามที่จะสั่งการและให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามวางแผนทุกอย่างที่จะทำให้เกิดการบริหารจัดการเรื่องสภาพน้ำท่วมให้กับประชาชนในเขตจังหวัดที่มีน้ำท่วมทุกปีให้ได้มากที่สุด  วันนี้เริ่มจาก จ.พิจิตร มาชัยนาท และมาสิงห์บุรี และวันนี้ขอข้าวชาวสิงห์บุรีกินตอนเย็นด้วยนะ อร่อยตลอด และจากที่ตนได้เห็นรอยยิ้มและกำลังใจที่มอบให้ รู้สึกซาบซึ้งใจ แบบนี้ต้องทำทุกอย่างให้ความเดือดร้อนของท่านทั้งหลายหมดไปให้เร็วที่สุดและให้ดีที่สุด วันนี้พวกเราทำงานด้วยกันเป็นกลุ่มเดียวกัน มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนชาวสิงห์บุรี ให้ได้เต็มที่ก็ขอให้พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจ


ขอกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี

โดยช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรีได้มีการแนะนำคณะทำงานที่ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมกับแนะนำตัวเองด้วยว่านี่คือ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของพี่น้องประชาชน แต่อยากให้ชัวร์ให้เอาตนกลับมาอีกครั้งหนึ่งหลังเลือกตั้งในปีหน้า ชาวสิงห์บุรีต้องเลือกยกจังหวัดได้หรือไม่ ซึ่งประชาชนตอบว่าได้ นายกฯ จึงกล่าวว่า ต้องได้สิ เพราะสิงห์บุรีมี สส. เพียงคนเดียว และย้ำว่าสิ่งที่รับปากไว้จะไปดำเนินการให้เรียบร้อย

ดีใจจากบ๊วย มาเป็นที่1

นายอนุทิน ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลสำรวจอีสานโพลที่อยากเลือกให้มาเป็นนายกรัฐมนตรี และชนะนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถึง 1.5 เปอร์เซ็นต์ว่า ดีใจคืนเดียว แต่ก็ต้องทำงาน ยิ่งมาแบบนี้ก็ต้องทำให้ความคาดหวังของประชาชนไม่สูญเปล่า ดีใจจากบ๊วยมาเป็นที่ 1 เป็นใครไม่ดีใจ

ส่วนใน 4 เดือนนี้พรรคภูมิใจไทยจะทำโพลของตัวเองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โพลของพวกตนคือการลงพื้นที่ หากลงพื้นที่ ทำความเข้าใจชาวบ้านไม่ต้องทำโพล แต่ให้ประชาชนมั่นใจในตัวเราว่า เราทุ่มเทกับพวกเขาอย่างเต็มที่ จะได้หรือไม่ได้ก็ตรงนี้


ถาม “ พิธา” ภท. ดูดใคร

เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งกล่าวถึงพรรคภูมิใจไทยแม้จะภูมิใจดูดไป แต่ก็แพ้พรรคก้าวไกล นายอนุทิน ถามกลับว่า “รอบที่แล้วดูดใคร ไม่มีนี่” เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่า เช่น นางศรีนวล บุญลือ นายอนุทิน ร้องโอ๊ย ก่อนตอบว่า “นั่นไม่ใช่คราวที่แล้ว”

ลั่นไม่มีปัญหากับปชน.

ส่วนจะกระทบกับการทำงานระหว่างพรรคประชาชน กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน ปฏิเสธว่าไม่มี และไม่เคยมีปัญหา เราทำงานกับพรรคประชาชนในสภาเป็นอย่างดี มีอะไรที่หารือกัน หรือเป้าหมายที่ตรงกัน เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ กฎหมาย พ.ร.บ. อากาศสะอาด ก็ครบองค์ประชุม และสามารถรักษาองค์ประชุม เพื่อให้กฎหมายที่พรรคประชาชนเสนอ ซึ่งเราก็เห็นว่าเป็นประโยชน์ของประชาชน ย้ำว่าใน MOA เขียนไว้อยู่แล้ว หรือการเจรจา MOA ก็มีการทำความเข้าใจกันว่า กฎหมายอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชน และบ้านเมือง ก็อย่าไปคิดว่าใครเป็นฝ่ายค้าน ใครเป็นฝ่ายรัฐบาล ซึ่งก็แสดงท่าทีให้เห็นอย่างชัดเจน