โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผย ผู้แทนธุรกิจเอกชน ไทยในกัมพูชา โอด เจ็บหนักสุด กัมพูชาแบนสินค้าไทย วอนรัฐบาลช่วยเหลือวงเงินสินเชื่อ ค่าไฟ เตรียมรวบรวมชง ครม.เศรษฐกิจเคาะช่วยเหลือภายในเดือนนี้
วันที่ 10 ต.ค. 2568 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยผลการหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหารือกับผู้แทนภาคเอกชนไทยในกัมพูชาเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า การหารือวันนี้มีผู้แทนทั้งหมด 90 คน จากภาครัฐและเอกชนหลายกลุ่มธุรกิจ ทั้งธุรกิจพลังงาน ค้าปลีก อาหาร ด้านการแพทย์ มาสะท้อนและส่งข้อเสนอให้รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศรับทราบว่าผู้ประกอบการได้สะท้อนปัญหาและอุปสรรคของธุรกิจ หลังจากที่ผู้นำกัมพูชายืนยันแบนสินค้าไทย ในกัมพูชาว่า ในการหารือวันนี้ผู้ประกอบการภาคเอกชนได้เสนอมาหลายข้อ โดยเฉพาะมาตรการที่อยากให้ภาครัฐไปพิจารณาช่วยเหลือมีตั้งแต่มาตรการภาษี มาตรการทางการเงิน วงเงินสินเชื่อ การช่วยเหลือด้านค่าไฟ ซึ่งมีหลายข้อเสนอ กระทรวงการต่างประเทศ และกรมเศรษฐกิจ ได้นำข้อเสนอทั้งหมดไปรวบรวมเพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเชื่อว่าจะมีการพิจารณาในที่ประชุม และคลอดออกมาเป็นนโยบายที่จะช่วยเหลือภาคเอกชนได้ตามข้อเสนอและข้อเรียกร้อง
กัมพูชาบอยคอตสินค้าไทย
ส่วนผลกระทบ การค้าชายแดนที่ปิดตัวลง ทุกภาคส่วนก็ได้รับผลกระทบกันหมด โดยเฉพาะกัมพูชา รณรงค์ประชาชนไม่ให้บริโภคสินค้าไทย ส่งผลกระทบกันทั่วหน้า ยกตัวอย่างธุรกิจด้านพลังงานอย่าง ปตท. อะเมซอน และลุกลามไปถึงธุรกิจอาหาร โรงแรม การบริการโรงพยาบาล ร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจขนาดเล็กขนาดใหญ่โดนกันหมด เช่นบริษัท ซีพี เจริญโภคภัณฑ์ ได้รับผลกระทบมาก เพราะประชาชนไม่ต้องการบริโภคสินค้าไทย และเข้าใจดี ว่าไม่ต้องการให้เกิดเพราะเป็นเรื่องระหว่างรัฐต่อรัฐ แต่มีความรู้สึกที่จะบอยคอตสินค้าไทย ซึ่งเราจะต้องจับตาดูว่าการค้าขายสินค้าไทยจะมีแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างไร
...
เอกชนถามเปิดด่านได้เมื่อไร
นายนิกรเดช กล่าวด้วยว่า ส่วนการปิดด่านชายแดนระยะยาว ตัวเลขความเสียหายไม่ได้มีการพูดในที่ประชุม แต่กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ได้แลกเปลี่ยนกันอยู่แล้ว และเราก็ทราบว่าการค้าชายแดนมีถึงร้อยละ 50 ของมูลค่าการค้ารวมที่หายไปมากถึงร้อยละ 90 ในที่ประชุมวันนี้ไม่ได้พูดถึงตัวเลขความเสียหาย แต่พอจะทราบอยู่แล้ว ส่วนมาตรการที่จะทำอย่างไรนั้นขณะนี้มีมาตรการชั่วคราวโดยงดขนส่งทางบกแล้วหันไปใช้ทางเรือหรือทางอากาศ และทุกฝ่ายก็ยังรอดูว่าเราเริ่มเข้าสู่กระบวนการเจรจาทวิภาคีผ่านกลไกต่างๆ รวมถึงข้อตกลงหยุดยิงจะนำไปสู่สันติภาพที่ถาวรได้หรือไม่
ขณะที่ภาคเอกชนที่มาประชุมในวันนี้ไม่ได้มีเอกชนรายใดร้องขอให้รัฐบาลเปิดด่านชายแดน มีแต่จะเข้าใจปัญหาและถามว่าด่านชายแดนจะกลับมาเปิดได้เมื่อไร