“โรม” ชี้ ปิดด่านชายแดนเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว หากกัมพูชายังปล่อยแก๊งสแกมเมอร์ระบาด เชื่อความสัมพันธ์และการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา ไม่กลับมาเป็นปกติได้
วันที่ 10 ต.ค. 2568 ที่ อาคารอนาคตใหม่ นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวถึงมาตรการการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาของกองทัพจนกว่ากัมพูชาจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทยว่า การปิดด่านเป็นหนึ่งในมาตรการที่เกิดขึ้นหลังจากที่มีความขัดแย้งตามแนวชายแดน สุดท้ายไม่ว่าใครจะเป็นคนเริ่มก่อนในเรื่องของการปิดด่านชายแดน แต่ตอนนี้มันปิดไปแล้ว ซึ่งการปิดด่านชายแดนเป็นมาตรการทางเศรษฐกิจของฝ่ายไทยในการบีบกัมพูชาเพื่อให้การเจรจาพูดคุยสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ที่ผ่านมาแม้เราจะปิดด่านเป็นเวลานาน การเจรจาพูดคุยกันด้วยดีแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย ส่วนใหญ่ก็มีการเบี่ยงประเด็นพูดคุยต่าง ๆ โยนไปในวงประชุมวงโน้นบ้างวงนี้บ้าง จึงเป็นเหตุผลว่าถ้าเราไปดูข้อมูลรายได้ส่วนใหญ่ของกัมพูชาแล้ว จะพบว่าไม่ได้มาจากการค้า แต่รายได้ส่วนใหญ่ 60 % ของกัมพูชามาจากแก๊งสแกมเมอร์
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นถ้าเราจะแก้ปัญหาสแกมเมอร์ มีความจำเป็นที่จะต้องโชว์หลักการ 3 ข้อตามที่ทาง GBC ได้มีการเน้นย้ำ ไม่ว่าจะเป็นการกวาดทุ่นระเบิดร่วมกัน การถอนอาวุธหนักร่วมกัน และการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ร่วมกัน ทั้งสามข้อนี้หากมีข้อตกลงที่ชัดเจนและรูปธรรมแสดงให้เห็นถึงความจริงใจการที่จะพูดคุยเพื่อผ่อนคลายในมาตรการต่าง ๆ มันอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ต้องนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ผ่านทั้งสามข้อตกลงดังกล่าวก่อน
เมื่อถามว่าการปิดด่านชายแดนของไทยคุ้มหรือเสียมากกว่ากัน นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่าถ้าหากมองแค่ตัวเลขทางเศรษฐกิจการค้าแล้ว ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาประเทศไทยเกินดุล แต่เวลามองปัญหาความมั่นคงจะไม่สามารถมองแค่จุดใดจุดหนึ่งได้ เราต้องมองทั้งหมด ต้องมองตั้งแต่เรื่องของการเจรจาพูดคุย ซึ่งบางครั้งมันไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของตัวเงิน การที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาความสัมพันธ์ เทคนิควิธีการในการเจรจา อย่าประเมินเป็นตัวเลข ต้องมองโดยภาพรวมว่าตกลงเป้าหมายของเราวันนี้คืออะไร ต้องเอาเป้าหมายเป็นตัวตั้ง ถ้าเราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ นั่นแหละคือความคุ้ม แต่ถ้าบรรลุเป้าหมายไม่ได้ ก็อาจจะต้องกลับมาทบทวนเรื่องของวิธีการ
...
ทั้งนี้นายรังสิมันต์ เสนอว่า “สิ่งหนึ่งที่ผมได้ทบทวนวิธีการแล้ว ผมจึงเสนอว่าการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ เป็นกุญแจสำคัญในการที่จะคลี่คลายเรื่องนี้ บางคนบอกว่าก็เราไปทุบหม้อข้าวเขา แล้วมันจะไปเป็นความสัมพันธ์ที่ดีได้ยังไง ผมก็ต้องตั้งคำถามใหม่ว่าตราบใดที่เขายังมีหม้อข้าวอันนั้นแล้วมันทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เงินของคนไทยจำนวนมากถูกหลอกเส้นเงินจำนวนมากไหลไปกัมพูชา เราจะรู้สึกดีกับเขาได้ยังไง”