“รังสิมันต์” โอ่มีเอกสาร 48 หน้า เปิดโปงอาณาจักรฟอกเงินระดับมโหฬาร ลั่นกำลังตรวจสอบเรื่องระดับโลก แนะให้ กลต.คุยกับธนาคารกลางสิงคโปร์ ร่วมมือปราบปรามบริษัททุนสีเทา


เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ต.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม เกี่ยวกับกรณีสินบน 40 ล้านบาท นายไชยชนก ชิดชอบ ที่มีการติดต่อจะให้เงินสินบนผ่านทีมงาน จ. อยุธยา ว่า จะต้องมีการไล่ไทม์ไลน์ และเส้นทางติดสินบน และจะเรียกนายไชยชนก รมว.ดิจิทัลฯ มาชี้แจงเป็นครั้งที่ 2

โอ่ได้รับเอกสาร 48 หน้า

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ตนได้รับเอกสาร 48 หน้า เป็นข้อมูลที่เปิดโปงให้เห็นอาณาจักรการฟอกเงิน มีตัวละครต่าง ๆ หลักฐานบางอย่างเป็นระดับทางการ เป็นเรื่องการฟอกเงินที่ใหญ่มโหฬารในระดับที่อาจจะมีรัฐบางรัฐอยู่เบื้องหลัง เมื่อถามว่า มีรายชื่อนักการเมืองอยู่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอเก็บไว้ก่อน แต่ในเอกสาร มีบุคคลมากกว่า 1 คน ขอสื่ออย่ามาเล่นเกมทายตัวเลข เพราะในวันที่ 30 ต.ค.นี้ จะเชิญนายวรภัค ธันยาวงษ์ รมว.คลัง เข้ามาให้ข้อมูล กมธ.ด้วย

รวบรวมข้อมูลส่งจนท.

เมื่อถามถึงกรณี ร.อ. ธรรมนัส บอกว่า นายเบน สมิธ ที่รู้จักเป็นคนละคนกับที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายรังสิมันต์ ตอบว่า อย่าไปคิดว่าชื่อไม่เหมือนกันแล้วเป็นคนละคน อย่าคิดว่าบริษัทที่ถูกสร้างเพื่อต้มตุ๋นคน จะต้องมีตัวละครจริง เมื่อถามว่า มีหลักฐานพอที่จะเชื่อมโยงได้หรือยัง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ส่วนการแจ้งดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจทำอย่างเต็มที่แน่นอน

...

ปูดสแกนม่านตาซื้อข้อมูล

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนี้มีเรื่องการซื้อขายข้อมูลชีวภาพโดยการสแกนม่านตา จ่ายเป็นคริปโตฯ เลี่ยงกฎหมาย โดยให้แลกเปลี่ยนข้อมูลชีวภาพ สามารถเอาไปสร้างตัวตนปลอมในโลกออนไลน์ได้ เป็นแหล่งที่มาสำคัญในการไปทำบัญชีม้าแก๊งสแกมเมอร์ วันนี้ มีผู้สแกนม่านตาไปแล้วล้านคน ทั้งไทย และต่างด้าว เรากังวล เริ่มเจอบริษัทที่อาจเชื่อมโยงกับ คีย์แมนบริษัทธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับบุคคลที่สงสัย หากเป็นจริงจะไม่ใช่แค่เรื่องการฟอกเงินแล้ว เป็นเรื่องชีวมิติที่จะต้องสอบสวนต่อไป เพราะมีมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท เรื่องที่ กมธ. ชุดนี้พิจารณา ไม่ใช่เรื่องระดับชาติ แต่เป็นเรื่องระดับโลกเกี่ยวพันกับประเทศต่าง ๆ เรากำลังพูดคุยและแนะนำให้ กลต.คุยกับธนาคารกลางสิงคโปร์ เพื่อแสวงหาความร่วมมือปราบปรามบริษัทข้ามชาติกับทุนสีเทา

แฉเกณฑ์คนสแกนแลกเงิน

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ตนเองเป็นห่วงเรื่องข้อมูลชีวมิติ เพราะว่ามีข้อมูลบ่งชี้หลายอย่างที่เป็นกังวล ล่าสุดมีการเกณฑ์คนที่จังหวัดแห่งหนึ่งจากทั้งหมู่บ้าน เพื่อนำมาสแกนม่านตา โดยให้เงิน 500 บาท ผ่านเอเจนต์ ซึ่งหากทำไปเรื่อย ๆ เราไม่รู้ว่าการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่อันตรายมาก กังวลเรื่องความพร้อมเจ้าหน้าที่รัฐไทยกับกรณีนี้