สภากรุงเทพมหานคร ไฟเขียวงบประมาณเพิ่มเติมปี 2569  จ่ายหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว  “ชัชชาติ”ยอมรับหาผู้กระทำผิดละเมิดสัญญาไม่ง่าย


วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 2) ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยมีนายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 รายงานผลการศึกษาของคณะกรรมการเพื่อให้สภากรุงเทพมหานครพิจารณาในวาระที่สองและวาระสาม


นายนภาพล กล่าวว่า คณะกรรมการได้พิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวนเงินทั้งสิ้น 32,625,106,200 บาทถ้วน เป็นรายจ่ายพิเศษ โดยจ่ายจากเงินสะสมจ่ายขาดของกรุงเทพมหานคร ผลสรุปในการพิจารณาของคณะกรรมการวิสามัญฯ มีมติให้ผ่านงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเป็นจำนวนเงิน 32,625,106,200 บาทถ้วน โดยคณะกรรมการมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะดังนี้ 1. กรุงเทพมหานครควรกำหนดแนวทางในการชำระค่าจ้างเดินรถและค่าซ่อมบำรุง (O&M) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 นับตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2568 จนถึงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ให้ชัดเจน เพื่อให้กรุงเทพมหานครสามารถชำระค่าจ้างเดินรถ และค่าซ่อมบำรุง (O&M) ได้ หากผิดนัดชำระหนี้อีกอาจก่อให้เกิดความเสียหายในส่วนของการต้องชำระค่าดอกเบี้ยในอัตราที่สูง และ 2. หน่วยรับงบประมาณควรเร่งดำเนินการเบิกจ่าย เพื่อประโยชน์ในการลดภาระดอกเบี้ยของกรุงเทพมหานคร

...



ในที่ประชุมนายเอกกวิน โชคประสบรวย ส.ก.เขตราชเทวี ได้อภิปรายให้ผู้ว่าชัชชาติ ติดตามและดำเนินการกับผู้ละเมิดสัญญาทำให้กรุงเทพมหานครได้รับความเสียหาย


ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการที่ ป.ป.ช. ชี้มูล และให้หาผู้รับผิดชอบกรณีละเมิด ทาง กทม. กำลังดำเนินการโดยยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เพราะ ป.ป.ช. มีข้อจำกัดและยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม โดยฝ่ายบริหารกำลังเร่งรัดและทำงานคู่ขนานกัน

หลังจากนั้นสภา กทม. มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติฯ ดังกล่าว และส่งให้ฝ่ายบริหารดำเนินการต่อไป