พรรคประชาชน แนะรัฐบาลแก้น้ำท่วมไม่ช้า-ไม่จม-ไม่ซ้ำรอย เยียวยายังช้าอยู่ ยักไหล่ บลัฟกลับเพื่อไทย พรรคส้มเล็งกวาด สส. 250 ที่นั่ง ฝากนายกฯ เตือน รมต. ไม่ควรใช้เครื่องมือทางกฎหมายมาเล่นงานกัน
วันที่ 8 ตุลาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงข่าวที่รัฐสภา ถึงข้อเสนอต่อรัฐบาลเรื่องมาตรการช่วยเหลือน้ำท่วม หลังจากลงพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง พร้อมกับ สส.พรรคประชาชน ว่า เรื่องเงินเยียวยา รัฐบาลต้องบริหารจัดการให้ไม่ช้า ไม่จม ไม่ซ้ำรอย บางพื้นที่ล่าช้ากว่า 2 เดือนกว่าจะได้รับเงินเยียวยา 9,000 บาท อีกทั้งอยากส่งข้อเรียกร้องให้รัฐบาลใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า อย่างชาญฉลาด
เมื่อถามว่าการแก้ปัญหาของรัฐบาลช่วงน้ำท่วมถือว่าผ่านหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า บางส่วนยังช้าอยู่ เช่น เงินเยียวยาเมื่อเปรียบเทียบรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กับรัฐบาล น.ส.แพทอง ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภาพรวมตอนนี้รัฐบาลเพิ่งทำหน้าที่ไม่นาน แต่อยากให้รัฐบาลเร่งจัดการหลักเกณฑ์ในพื้นที่น้ำท่วมให้สอดคล้องกับปัญหาที่ประชาชนได้เจอ
ส่วนกรณีข้อวิจารณ์ นายอนุทิน ลงพื้นที่ไม่มากพอ เช่น การเลือกไปวันคล้ายวันเกิด นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดนั้น จะตรวจสอบอย่างไร นายณัฐพงษ์ ตอบว่า นายกรัฐมนตรีคงมีภารกิจอย่างหลากหลาย อยู่ที่วิจารณญาณของนายกรัฐมนตรี เพื่อความเป็นธรรมตนทราบว่านายกรัฐมนตรีคงไม่สามารถลงพื้นที่น้ำท่วมได้ครบทุกพื้นที่ แต่ประชาชนคาดหวังผู้บริหารประเทศลงไปรับฟังปัญหาครบถ้วนและเกิดการกระทำด้วย
ขณะเดียวกัน นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีนักการเมืองเริ่มเข้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จนเป็นพรรคภูมิใจดูด ว่า อาจจะเป็นเรื่องปกติ ที่เมื่อเข้าใกล้ฤดูกาลเลือกตั้งจะมีการสลับขั้วย้ายค่ายกันบ้าง แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นกลไกที่เราปฏิเสธไม่ได้ทำให้เกิดการย้ายพรรคได้ง่าย แบบ สส.งูเห่า หนึ่งสาเหตุที่พรรคประชาชนให้ความสำคัญจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
...
ฝากนายกฯ เตือน รมต. ไม่ควรใช้เครื่องมือทางกฎหมายมาเล่นงานกัน
สำหรับการไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยสุ่มเสี่ยงที่จะขัดต่อ MOA หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ตอบว่า ณ ตอนนี้ตนยังไม่เห็นว่าจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก แต่คงไม่ปล่อยให้สถานการณ์ไหลไปถึงจุดนั้น ถ้าเล็งเห็นแล้วว่ามีความเสี่ยงกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจล้มรัฐบาลทันที และอยากฝากนายกรัฐมนตรีตักเตือนผู้ใต้บังคับบัญชา เช่น รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีต่างๆ การอภิปรายในสภาฯ ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ควรใช้เครื่องมือทางกฎหมายมาเล่นงานกัน
ทางด้านประเด็นคำถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งบุคคลเป็นคณะทำงานซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีเขากระโดงและฮั้วเลือก สว. ที่อาจจะมีเครือข่ายกับรัฐมนตรีนั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า พรรคประชาชนจะติดตามต่ออย่างใกล้ชิด ถ้าถึงจุดที่รัฐบาลกำลังจะใช้อำนาจโดยมิชอบ ทำลายกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เราพร้อมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อถามย้ำว่าการวางแผนอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นช่วงไหน จะมีการชิงยุบสภาหนีก่อนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ตอบว่า หากยื่นสภาได้ ก็ไม่สามารถยุบสภาได้ อยู่ที่ว่าใครยื่นได้เร็วกว่ากัน หากพรรคเพื่อไทยยื่นเองก็ทำได้ สิ่งที่สำคัญคือการทำให้ระบบการเมืองไทยกลับมาสู่ระบอบประชาธิปไตยเต็มใบ มีกลไกถ่วงดุลตรวจสอบที่ดี เป็นไปตามหลักสากล ไม่อยากให้ใช้เกมการเมืองในการตัดสินใจยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อล้างแค้นอะไรกันหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามต่อ รัฐบาลที่เป็นอยู่ขณะนี้เป็นไปตามที่พรรคประชาชนวางไว้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ เผยว่า เขาเองมีอิสระในฐานะฝ่ายบริหาร ส่วนเราเป็นฝ่ายค้าน แต่ทิศทางใหญ่ๆ ยังอยู่ในกรอบที่พรรคประชาชนโหวตเลือกนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี ยังอยู่ในกรอบที่เราประเมินไว้อยู่ ยังไม่มีอะไรที่เป็นข้อห่วงใยหรือข้อกังวลที่เราจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ขณะที่คำถาม มีการพูดคุยกับนายอนุทิน หลังจากแถลงนโยบายหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุย 1 ครั้งในช่วงไม่กี่วันมานี้ ในเรื่องการหารือผ่านกฎหมาย พ.ร.บ.อากาศสะอาด ได้ยกสายหานายอนุทินโดยตรง อยากให้ท่านกำกับพรรคร่วมรัฐบาลในการมาเป็นองค์ประชุมและโหวตผ่าน พ.ร.บ.อากาศสะอาด เราพยายามดันอากาศสะอาดให้ผ่านสภาเร็วที่สุด
บลัฟกลับเพื่อไทย ปชน. ตั้งเป้ากวาด สส. 250 ที่นั่ง
ในช่วงท้าย หัวหน้าพรรคประชาชนยังกล่าวถึงกรณี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศว่า พรรคเพื่อไทยน่าจะได้ สส. 200 ที่นั่ง และพรรคประชาชนจะได้ลดลงไม่ถึง 100 ที่นั่ง เพราะกระแสตก ว่า ก็เป็นสิ่งที่ทุกพรรคประเมินว่าตัวเองได้เยอะอยู่แล้ว ตั้งเป้าหมายให้สูง แต่เราเชื่อมั่นว่าในการเลือกตั้งข้างหน้าเป้าหมายของเราได้ 20 ล้านเสียง อาจจะคำนวณเป็นที่นั่งไม่ได้ แต่หากสะท้อนอย่างตรงไปตรงมา ก็จะประมาณ 250 ที่นั่ง.