“สว.ชีวะภาพ” ฉะ ร่างกฎหมาย นิรโทษกรรมคดีรุกป่าเอื้อนายทุน ยกกรณี จ.ราชบุรี รอรับอานิสงส์ได้ป่าไม้ไปครอง ขู่หากกฎหมายผ่านสภาฯ เชื่อ ทั้ง “สส.-สว.-ทุนเทา-บ่อนกาสิโนกัมพูชา”เฮลั่น
วันที่ 7 ต.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายพสิษฐ์ เอี๋ยวพานิช นายกสมาคมอุทยานแห่งชาติ ตัวแทนสมาคมศิษย์เก่าวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และภาคีเครือข่ายรักประเทศไทย พร้อมด้วยอดีตผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ายื่นหนังสือคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบ จากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ และร่าง พ.ร.บ.ยกเว้นความผิดให้แก่บุคคลที่ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบ จากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านป่าไม้และที่ดิน พ.ศ. .... โดยมีนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เป็นผู้รับหนังสือ
แจงเหตุผลรับไม่ได้
โดยนายพสิษฐ์ กล่าวว่า สมาคม ขอคัดค้านและไม่เห็นด้วยต่อร่าง พ.ร.บ. ทั้ง 2 ฉบับ โดยมีเหตุผลดังนี้ 1. ร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับดังกล่าว มีเจตนารมณ์ที่จะนิรโทษกรรมต่อผู้กระทำผิดไม่เฉพาะประชาชนผู้ยากไร้ (ซึ่งรัฐได้มีมาตรการเยียวยาไปแล้ว) แต่มีเจตนาแอบแฝง ให้มีผลไปถึงนายทุน ผู้มีอิทธิพลและนักการเมือง ที่กระทำผิดกฎหมายว่าด้วยที่ดิน ป่าไม้และสัตว์ป่า เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง หรือไม่ อย่างไร 2. ร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับดังกล่าวไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจน เป็นการนิรโทษกรรม ให้กับผู้กระทำผิดในอดีต และผู้ที่จะกระทำความผิดในปัจจุบันและในอนาคตด้วย ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาส ให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคล บุกรุกที่ดินป่าไม้เพิ่มขึ้น 3.กรณีการคืนสิทธิในที่ดิน ให้กับผู้ที่ได้รับนิรโทษกรรม ตามร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับ อาจเป็นการให้อภิสิทธิ์แก่ผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีเจตนาก้าวล่วงหรือละเมิดอำนาจศาล
...
ขู่จัดการตามกฎหมาย
นายพสิษฐ์ กล่าวต่อว่า 4. ผู้เสนอและผู้สนับสนุนร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับดังกล่าว อาจละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรมแห่งข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ข้อ 4 ข้อ 6 และข้อ 21 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 5.คณะผู้เสนอและผู้สนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับดังกล่าว น่าจะเข้าข่ายการกระทำความผิด ทั้งละเมิดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และเป็นการใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติแทรกแซงอำนาจฝ่ายตุลาการ ขัดต่อหลักการบริหารประเทศในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่เน้นการถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ ความผิดตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
“หากยังไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง สมาคมศิษย์เก่าวนศาสตร์ สมาคมอุทยานแห่งชาติ และภาคีเครือข่ายรักประเทศไทย จำเป็นต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป” นายพสิษฐ์ กล่าว
สว.นอนไม่หลับ รับไม่ได้
ด้านนายชีวะภาพ กล่าวว่า ร่างกฎหมายนี้ทำตนนอนไม่หลับ ไม่ใช่ตลกแต่เป็นเรื่องที่ซีเรียสมาก ตนเจอกฎหมาย 20 มาตราที่เป็นกฎหมายใหม่ฉบับนี้ ที่ไม่มีความละเอียดอ่อนและลุ่มลึกทางด้านวิชาการและนิติศาสตร์เลย ซึ่งตนจะนำเรื่องที่ทางสมาคมฯ ยื่นเข้าที่ประชุม กมธ. และจะดำเนินการศึกษาต่อไป สิ่งไหนที่เราไม่เห็นด้วยก็คงจะไม่เห็นด้วย สิ่งไหนที่เป็นผลดีต่อพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับคนยากไร้ก็ให้ดำเนินการไป เพราะตนช่วยคนยากไร้มาตลอดชีวิตอยู่แล้ว จึงเข้าใจดี แต่วันนี้กลับเอาเรื่องของนายทุน เข้าไปใส่ไว้ในกฎหมาย อย่าง 1-2 วันที่ผ่านมาก็มีการตัดสินคดีใหญ่ไปหนึ่งคดี ซึ่งเราไม่สามารถยอมได้
ไม่อยากพูดนายทุนได้เต็มๆ
นายชีวะภาพ กล่าวต่อว่า ในส่วนที่ทาง กมธ. ศึกษามา เห็นข้อกังวลของกฎหมายฉบับนี้ประมาณ 5-6 ข้อ ซึ่งหลักการและเหตุผลของกฎหมายนี้อ้างว่าทำเพื่อคนยากคนจน “ผมไม่อยากจะพูดว่าเป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนายทุนมากกว่า ซึ่งถือว่าหลักการและเหตุผลผิดไปหมด เพราะจริงๆ แล้วคดีความที่อ้างมาตั้งแต่ปี 2557-ปัจจุบัน มีคำสั่งที่ 64/2557 ที่ให้จับนายทุน และ 66/2557 ที่ระบุอย่าจับคน ซึ่งเป็นเครื่องมือดูแลอยู่แล้ว คดีที่เอามาโชว์กัน 5-6 หมื่นคดี มีแต่คนรวยทั้งนั้น คนจนเขาแก้ปัญหากันมาเยอะแล้ว แต่อาจจะติดขัดบ้างคิดว่าไม่ถึง 10 %” สว.ชีวะภาพ กล่าวและว่า ควรจะใช้วิธีอื่นในการแก้ปัญหาและเคยแก้ได้หลายพื้นที่แล้ว ไม่ใช่ไปออกกฎหมายมา 20 มาตราแล้วเหมาเข่งทั้งหมด คดีที่บุกรุกเมื่อวานที่ จ.ราชบุรี ก็จะได้รับอานิสงส์ด้วย
รู้มีสส.นับสิบได้อานิสงส์
“ผมรู้ว่าใครได้อานิสงส์บ้าง มี สส.ในสภาแห่งนี้อีกเป็นสิบๆ คนที่โดนคดีแบบนี้ ไปดูสิว่ามันพรรคไหนบ้าง มีอดีตรัฐมนตรีกี่คนที่จะได้กลับมาผงาด จะเอากันแบบนั้นหรือ มันไม่ใช่ และที่สำคัญผมบอกเลยว่าที่ดินเป็นล้านๆ ไร่ คนเขียนกฎหมายรู้บ้างหรือไม่ ว่าเขาเอาไปฟื้นฟู ปลูกป่า เขาเอาไปทำเป็นสวนป่า เป็นป่าชุมชนก็มี เอาไปทำโครงการพระราชดำริ และโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ใช้เงินไปเป็นแสนๆ ล้านบาทแล้ว แล้วจะให้เขากลับเข้าพื้นที่ บางคนได้กลับเข้าไปก็แฮปปี้เลย เพราะมีอ่างเก็บน้ำเป็นของตัวเองแล้ว และรัฐปลูกป่าไว้ให้หมดแล้วเป็นล้านๆ ไร่ในคดีที่ถูกยึดไป”
ถามออกกฎหมายนี้เพื่ออะไร
นายชีวะภาพ กล่าวอีกว่า หาก พ.ร.บ.นี้ออกมาจะทำงานกันได้หรือไม่ เพราะทุกคนก็ไม่กล้าจับใครแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนายทุน สีเทา หรือสีดำ ล่าสุดสวนทุเรียนของทุนจีน 6,000 ไร่ ก็ได้รับอานิสงส์กันไปหมด ขอถามว่ากฎหมายแบบนี้จะทำไปเพื่ออะไร ซึ่งเรื่องนี้อาจจะผิดรัฐธรรมนูญด้วย ดังนั้นขอวิงวอนว่าถ้าเป็นไปได้ขอให้ถอนร่างกฎหมายนี้ออกไป แล้วไปคิดมาใหม่
“ถ้ากฎหมายผ่านสภา จะมีขบวนการบุกรุกแล้วให้จับ หน่วยข่าวกรองของผมบอกว่าหลายพื้นที่ก็มีเกิดขึ้นแล้ว แม้แต่ที่ดินที่ทุนเทาครอบครองอยู่ หรือที่ดินชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีปัญหา ที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ เข้าไปตรวจยึดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชาวกัมพูชาที่สร้างกาสิโนในเขตแดน ก็สามารถมายื่นนิรโทษกรรมได้ โดยใช้นอมินีเป็นตัวแทน ” ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าว
ขู่ไม่ถอนร่างพร้อมแฉ
เมื่อถามว่า คดีการบุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก. 1,700 ไร่ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุก 4 ปี 1 เดือน จะเข้าข่ายกฎหมายนี้หรือไม่ นายชีวะภาพ กล่าวว่า เข้าแน่นอน เพราะเขาอยู่อาศัยมาก่อนปี 2545 เขาสามารถยื่นนิรโทษกรรมได้เลย เพราะกฎหมายนี้ไม่ได้ระบุว่าเป็นคนจนหรือคนรวย แค่ระบุว่าอาศัยก่อนมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 ซึ่งขณะนี้มีหลายคนที่อยู่ในคุกมีคดีเกี่ยวกับเรื่องเอกสารสิทธิ์ ทั้งแถว จ.สระบุรี กระบี่ ก็จะได้อานิสงส์ด้วย รวมทั้งคดีการบุกรุกที่ดินป่าไม้ของนักการเมืองที่ยังไม่สิ้นสุดในกระบวนการทางกฎหมายทั้งของ สส. สว. และอดีตรัฐมนตรีอีกหลายคน ส่วนจะมีการเปิดเผยข้อมูลนักการเมืองที่ได้ประโยชน์จากกฎหมายนี้ให้สังคมรู้หรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าจะเปิดเผยเรื่องนี้แน่ ตนจะแฉทั้งหมด แต่ให้โอกาสถอนร่าง พ.ร.บ.นี้ออกไปก่อน แล้วให้ไปคิดมาใหม่ ให้เหมาะสมกว่านี้ ทั้งไทยเทา จีนเทา นักการเมืองที่เกี่ยวข้องตนรวบรวมรายชื่อไว้หมดแล้ว