“วิลาศ” ตามติดรัฐสภาหมื่นล้าน น้ำรั่วซ้ำซาก เที่ยวนี้ชั้นใต้ดิน B1-B2 ห้องประชุมใหญ่ชุ่มฉ่ำ คาดซีลหลังคารั่ว ระบายน้ำไม่ทัน จ่อร้อง ป.ป.ช. เอาผิดคณะกรรมการตรวจรับงาน
วันที่ 5 ตุลาคม 2568 นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต สส.กทม. และอดีตประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ปปช.สภาฯ) เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่สภาผู้แทนราษฎรว่า เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในห้องประชุมใหญ่ชั้น B1 และไหลลงท่วมในชั้น B2 ที่เป็นห้องสัมมนาทั้งสอง รวมถึงลานอเนกประสงค์ด้านนอกของบริเวณหน้าศูนย์อาหารกินนี่ ภายในอาคารรัฐสภาที่เพิ่งเปิดใช้บริการเป็นศูนย์อาหารใหม่แทนที่เดิม โดยตนสอบถามจากแม่บ้านที่มาทำความสะอาดบอกว่า ตอนที่เข้ามาเริ่มทำความสะอาด มีน้ำท่วมขังในห้องประชุมและห้องสัมมนาทั้งสองชั้น เปียกเสียหายทั้งหมด มีน้ำท่วมสูงถึงตาตุ่ม เนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนัก จึงคาดว่าปริมาณน้ำฝนไหลลงสู่หลังคาโปร่งแสงที่มีการซีลเกิดการรั่วซึม หรืออาจน้ำระบายไม่ทัน จึงทำให้มีน้ำรั่วไหลลงจากหลังคา และอาจล้นลำรางระบายน้ำ ทำให้มีน้ำตกไหลลงเพดานของห้องประชุมชั้น B1 และ B2 ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ทำให้พรมที่ปูทั้งชั้นในห้องประชุมใหญ่ ห้องสัมมนาใหญ่ทั้งชั้น B1 และ B2 เปียกชุ่มเสียหายทั้งหมด
ชุ่ม ทั้งห้องประชุมใหญ่
นายวิลาศ กล่าวต่อว่า ทราบว่า ทางสภาฯ ต้องเร่งให้บริษัทที่รับจ้างดูแลทำความสะอาด สั่งระดมพ่อบ้าน แม่บ้าน ให้เข้ามาทำความสะอาดในวันหยุดจำนวนมาก โดยใช้เครื่องดูดน้ำออกจากพรมปูพื้นในห้องประชุมสัมมนาทั้งชั้น B1 และ B2 โดยตนเข้าไปดูเมื่อเวลา 07.30 น. ของวันที่ 5 ต.ค.2568 เจ้าหน้าที่ยอมรับว่า อาจต้องเปลี่ยนพรมใหม่ทั้งหมด เพราะถึงดูดน้ำแห้ง แต่ก็ยังมีกลิ่นอับชื้นและเสี่ยงเป็นเชื้อราภายในจะสร้างปัญหาใหม่ตามมาให้แก้ไม่จบอีก ทั้งนี้ เรื่องในลักษณะดังกล่าวนี้ ที่มีน้ำรั่วน้ำซึม หรือท่อประปาแตกเคยเกิดขึ้นในอาคารรัฐสภาแห่งสมัยนี้มาโดยตลอด แล้วแต่ว่าจะกระจายเกิดที่บริเวณไหน แต่ครั้งนี้เกิดจากฝนตกหนัก และเข้าใจว่าเกิดจากการรั่วซึมของการซีลหลังคาโปร่งแสงรวมถึงระบบระบายน้ำไม่ทัน เพราะมีคลิปที่ถ่ายได้จะเห็นว่ามีน้ำไหลลงมาเหมือนน้ำตกหลายจุดตามคลิปที่ถ่ายไว้
...
จ่อร้อง ป.ป.ช. เอาผิด กก.ตรวจ
“ผมเคยทำหนังสือเตือนเลขาธิการสภาฯ และคณะกรรมการตรวจการจ้าง เกี่ยวกับการรับมอบงานแล้วว่า ก่อนรับมอบงาน ควรมีการตรวจสอบทุกจุดให้เรียบร้อย ซึ่งเมื่อเกิดความเสียหายเช่นนี้ขึ้น โดยเฉพาะพรมที่ปูทั้งสองชั้น ในห้องประชุมใหญ่และห้องสัมมนาทั้งหมด สอบถามจากเจ้าหน้าที่แล้วต่างบอกว่า ถึงดูดน้ำออกแล้วแต่ยังมีความชื้นอยู่ ที่สุดก็จะส่งกลิ่นเหม็นอับ เพราะพรมที่ปูทั้งชั้นเป็นพื้นที่กว้างขวางมากคงจะต้องเปลี่ยนปูพรมกันใหม่ ซึ่งมีมูลค่าสูงหลายแสนบาท ใครรับผิดชอบ ผมจึงจะทำหนังสือร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ในเรื่องนี้ต่อไป เพราะถือว่าเคยเตือนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วว่า อย่าเร่งรัดการส่ง-รับมอบงาน ทั้งที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา” นายวิลาศ กล่าว