“สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” เผยเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรคไทยก้าวใหม่ ลั่นพร้อมร่วมงานทุกขั้วการเมือง ไม่สร้างปมขัดแย้ง มุ่งเป้าพื้นที่ กทม. ขอปักธงพรรค
วันที่ 3 ต.ค. 2568 ที่อาคารทรูดิจิทัลพาร์ค กรุงเทพมหานคร นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ให้สัมภาษณ์หลังการแถลงข่าวเปิดตัวพรรคไทยก้าวใหม่อย่างเป็นทางการ ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองใหม่จะสู้ในสนามเลือกตั้งครั้งหน้าว่า ยอมรับว่า เป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ ขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจ ที่ต้องการเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลง มาร่วมงานการเมืองกับพรรคไทยก้าวใหม่ที่ชูนโยบายด้านการศึกษาเพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ และสร้างคุณภาพชีวิต พรรคไทยก้าวใหม่ตั้งใจสร้างสังคมนิยมใหม่ ในการส่งเสริมคนดีในการปราบคอร์รัปชั่น ส่วนการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ถือเป็นช่วงเวลาที่เร็วมาก เพราะอีกไม่กี่เดือนจะเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว เรากำลังดูว่าเราจะส่งลงเขตไหนบ้าง ส่วนรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แน่นอนว่า หัวหน้าพรรคการเมืองต้องพร้อมทำหน้าที่เป็นผู้นำประเทศ และตนจะเป็น สส.บัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่งของพรรค
ลั่นพร้อมร่วมงานทุกขั้วการเมือง ไม่สร้างปมขัดแย้ง
เมื่อถามถึงการเมืองที่แบ่งขั้วแบ่งฝ่ายชัดเจน พรรคไทยก้าวใหม่จะวางตัวเองอยู่ในตรงไหน นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า เราตั้งใจเป็นพรรคที่ตั้งใจจะสร้างคนไปเปลี่ยนประเทศไทยจริงๆ ไม่ใช่แค่ระยะสั้น จึงมุ่งมั่นเพื่อทำงานร่วมกับทุกฝ่าย รับฟังเสียงของประชาชน เมื่อถามย้ำว่า แปลว่า ไม่มีข้อจำกัดในการร่วมกับพรรคไหนใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า อะไรก็ตามที่ให้พรรคเรามีโอกาสทำงานสร้างคน เราไม่ทำการเมืองที่ส่งต่อความขัดแย้ง เราขอทำงานดูแลลูกหลานพี่น้องประชาชนขอให้พวกเราได้ไปทำเรื่องรากฐานประเทศไทยจริงๆ
...
มุ่งเป้าพื้นที่ กทม. ขอปักธงพรรค
เมื่อถามถึงนโยบายธนูดอกแรกเรื่องการศึกษา เรียนฟรีจนถึงจบปริญญาตรี จะใช้งบฯที่มีเพียงพอหรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า สมัยนี้เด็กน้อยลงมากกว่า 3 เท่า หากเทียบกับสมัยของตน เราจึงมีงบประมาณเพิ่มขึ้นต่อหัวอยู่แล้ว ในฐานะที่ตนเป็นอดีตอธิการบดี เราเห็นอยู่แล้ว แต่การทำให้เขาได้งาน หลังจบการศึกษานั้น คือความท้าทายมากกว่า
ส่วนจะมีบิ๊กเนมเข้ามาเปิดตัวเพิ่มเติมหรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า การเปิดตัวครั้งนี้ ก็เพื่อเชิญชวนคนมาทำงาน ทุกคนที่มาร่วมกัน มาด้วยอุดมการณ์ ความกล้าหาญ และความรู้ ซึ่งแต่ละคนก็มีความเป็นมืออาชีพ ทั้งนี้ ตนยังไม่ขอประเมินว่าจะได้กี่ที่นั่ง ขอมุ่งมั่นเรื่องจุดยืน และวิสัยทัศน์ของเรา จึงขอคะแนนให้เราได้ สส.จำนวนมากพอ ในการเลือกตั้งปีหน้าที่สำคัญกับเรา โดยมุ่งเป้าพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่เป้าหมายและต้องส่งลงสมัครในทุกภาคอยู่แล้ว