“เปรมศักดิ์” จวกรายงานสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าช้าไม่ทันการ ห่วงยังหาผู้อำนวยการ สกนช.มากำหนดทิศทางจัดการกองทุนน้ำมันไม่ได้ ทำประชาชนรับเคราะห์ใช้พลังงานแพง
วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายระหว่างการพิจารณารายงานประจำปี 2566 ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ตามมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ที่มีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยตั้งคำถามถึงความล่าช้าและไม่ทันสมัยของรายงานที่ยึดตามปีงบประมาณ ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 แต่เพิ่งนำมาพิจารณาในวันนี้ ว่า สกนช.มีรายได้ในปี 2566 กว่า 110,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิกว่า 51,000 ล้านบาท แต่สถานการณ์ปัจจุบันกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากข่าวที่ปรากฏออกมาทางสื่อ สถานะทางการเงินของกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2568 กลับประสบภาวะขาดทุน ติดลบ 32,856 ล้านบาทแล้ว สะท้อนถึงปัญหาการบริหารจัดการที่ขาดความต่อเนื่อง เพราะตำแหน่งผู้อำนวยการ สกนช.ว่างลงและยังหาตัวจริงไม่ได้ แม้จะเปิดสรรหามาแล้ว 3 ครั้ง ซ้ำรายงานล่าช้า ข้ามปี ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง แล้วจะให้ส.ว.รับรองสถานะการเงินได้อย่างไร ทั้งนี้ตำแหน่งผู้อำนวยการ สกนช.มีความสำคัญมาก เพราะเป็นผู้กำหนดทิศทางการจัดการกองทุนและมีผลต่อราคาน้ำมันในประเทศ ที่เชื่อมโยงกับค่าครองชีพและต้นทุนสินค้า
ชาวบ้านรับเคราะห์ใช้พลังงานแพง
“ผมขอฝากให้รักษาการผู้อำนวยการ สกนช.นำข้อห่วงใยนี้แจ้งต่อรัฐมนตรีว่าการพลังงานคนใหม่ ซึ่งเคยเป็น CEO ของ ปตท.มาก่อน โดยข้อสังเกตว่า สาเหตุที่การสรรหาผอ.สกนช.ล่าช้าอาจมีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้ การหานายกรัฐมนตรีอาจจะยังง่ายกว่าการหา ผอ.กองทุนน้ำมัน เสียอีก แต่ผลกระทบนี้พี่น้องประชาชนกลับเดือดร้อนโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า เกษตรกร หรือแม้แต่ข้าราชการที่ต้องใช้น้ำมันเดินทาง จึงขอให้เร่งสรรหาผอ.สกนช.โดยเร็วที่สุด และขอฝากอีกข้อกังวลคือ เรื่องความโปร่งใสของกองทุนฯ ว่า มีการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ และเสนอให้ภาครัฐเร่งส่งเสริมพลังงานทางเลือกอย่างจริงจัง เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอนาคต” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
...