“เลิศศักดิ์” จี้ “อนุทิน” ตอบปมตั้ง “วรภัค” ด้าน “ทรงยศ” อภิปรายเน้นหนักคุณสมบัติรัฐมนตรี บอกธรณีทักท่านแล้ว ครม.ที่ตั้งกันมาอาจมีตำหนิ “โสภณ” ยัน ป.ป.ช. ตรวจสอบแล้ว ไร้มลทิน ด้าน “วรภัค” บอกตอนเป็นที่ปรึกษา “พิชัย” เพื่อไทยก็เคยตรวจสอบก็ไม่ได้ติดใจ
วันที่ 29 กันยายน 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายว่าตนเองมีคำถาม การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเกียรติยศของคนทั้งประเทศ จึงขอถามไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรวมถึง นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่าจะอธิบายต่อประชาชนอย่างไรในการแต่งตั้งบุคคลที่มีสถานะในการอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทกำมะลอที่ตอนนั้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารกรุงไทย แต่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่กำกับดูแลสถาบันการเงิน ส่วนคำถามที่ 2 หากในอนาคตข้างหน้ารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดส่งเรื่องให้กับศาลอาญาพิจารณาต่อไป จะทำให้นายอนุทินมีมลทินหรือไม่
...
ขณะที่นายทรงยศ รามสูตร สส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายนโยบายรัฐบาล เน้นหนักถึงคุณสมบัติรัฐมนตรี โดยเปรียบเปรยกับกรณีแผ่นดินทรุด ว่าเมื่อจิ้งจกทักยังต้องฟัง นี่ธรณีถึงกับทัก จึงอยากฝากไปถึงครม. ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นมาอาจมีตำหนิ
ท่านแรกคือ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลงานด้านกฎหมาย โดยย้อนกลับไปถึงวันที่นายบวรศักดิ์ร่างรัฐธรรมนูญ 60 แต่ได้คำตอบว่าทำไม่ได้ การที่นายบวรศักดิ์ได้มาคุม DSI ซึ่งดูแลเขากระโดงและฮั้ว สว.อีกที จึงอาจได้คำตอบเดียวกันว่า “ทำไม่ได้”
ต่อมาที่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นนายตำรวจที่รู้จักการสืบสวน รู้จักช่องทางการตรวจสอบ และรู้จักบุรีรัมย์ดี เชื่อว่าท่านจะรู้แง่มุมจุดอ่อนจุดแข็ง และจะนำความยุติธรรมกลับมาได้ แต่จะเป็นความยุติธรรมของฝ่ายไหน พี่น้องประชาชนจะรอดูกันอยู่
ต่อมาที่นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านสังคมและกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนโยบายที่ผ่านมาของพรรคภูมิใจไทยคือเรื่องกัญชาที่ทำให้ประเทศไทยขายกัญชากันจนเกลื่อนเมือง จนมาถึงรัฐบาลเพื่อไทยที่ทำให้กัญชากลับไปใช้เฉพาะการแพทย์ หวังว่ารัฐบาลอนุทินจะไม่นำกัญชากลับมาอีก อย่างไรก็ตาม
สุดท้ายนายทรงยศเสนอแนะเรื่องการทำนโยบายที่ดิน ที่ยังไม่มีนโยบายเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพียงเขียนไว้ในตอนท้ายเท่านั้นที่ว่า “การบริหารจัดการที่ดินเพื่อให้ประชาชนสามารถมีที่ทำกินได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม” เท่านั้น แต่ยังไม่มีรายละเอียดที่ว่าจะทำอย่างไร จึงขอฝากเรื่องนี้เอาไว้ให้รัฐบาลจริงจัง นับเป็นเรื่องที่ประชาชนรอคอย โดยเฉพาะปัญหาเอกสารสิทธิ์ของพี่น้องประชาชนมีปัญหาเยอะ
“โสภณ” แจง ป.ป.ช. ตรวจสอบแล้ว ไร้มลทิน
จากนั้น นายโสภณ ได้กล่าวชี้แจงว่า ตนเองถูกตรวจสอบจาก ป.ป.ช. ที่เป็นที่ทราบกันดีว่าในยุคนั้นมีความน่าเชื่อถือและตนเองได้ถูกตรวจสอบอย่างไร้มลทินโดยไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาตนเอง นายทรงยศ จึงพูดเท็จและไม่รู้ความจริง ส่วนเรื่องโครงการถนนไร้ฝุ่นในชนบทช่วยบอกสายเส้นทางที่ไม่แล้วเสร็จมาเพราะหากมากล่าวหาในสภาจะทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้นสิ่งที่ท่านพูดทั้งหมดไร้ความจริง ตนเองที่ได้รับความไว้วางใจให้นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทำคุณูปการให้ประเทศมากกว่าที่ท่านคิดและรู้ ดังนั้นการเป็นรัฐมนตรีในอดีตของตนเองไม่มีมลทิน
“วรภัค” บอกดีใจได้แจง ตอนเป็นที่ปรึกษา “พิชัย” เพื่อไทยก็ไม่ได้ติดใจ
ขณะที่นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวชี้แจงว่า วันนี้ดีใจที่ได้มีโอกาสชี้แจงในเรื่องดังกล่าว ที่ตนเองถูกกล่าวหาเพราะตอนที่ตนเองได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะที่ปรึกษาของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในครั้งนั้นทางพรรคเพื่อไทยก็มีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาและมีการตรวจสอบกันโดยไม่ได้ติดใจอะไร เพราะคงทราบข้อเท็จจริง จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้สมาชิกทราบว่าตนเองได้รับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยในปี 2555 โดยบริษัทดังกล่าวเมื่อตอนเป็นลูกค้าของธนาคารกรุงไทยไม่เคยถูก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร้องทุกข์กล่าวโทษว่ามีการตกแต่งบัญชีใดๆเพราะมียอดขายจริงและทรัพย์สินมีจริง
ภาพ : ศรันย์ พงษ์สวัสดิ์