“อนุทิน” ลั่น รัฐบาลภูมิใจไทยเข้าใจปัญหาประชาชนชายแดนที่สุด คิดถูกมอบ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถ้อยแถลงบนเวที UNGA วอนประชาชนขอให้อดทนแม้ถูกยั่วยุ โลกก็จะได้เห็นว่าไทยเป็นฝ่ายถูก



วันที่ 28 ก.ย. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการกล่าวถ้อยแถลงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 (UNGA 80 High-level Week) โดยเชื่อว่าประเทศไทยเราได้ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนว่าจุดยืนของรัฐบาลนี้เป็นอย่างไร ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้นำแนวทางและนโยบายของรัฐบาลที่ได้หารือเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนไปว่าจะแสดงจุดยืน และได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์เป็นความภาคภูมิใจ คนที่แต่งตั้งนายสีหศักดิ์มาก็ดีใจและภาคภูมิใจว่าบุคคลที่เราได้มอบหมายให้มาทำงานมีความเชี่ยวชาญในงานที่ถนัด

ยิ่งอดทน โลกยิ่งรับรู้

นายอนุทินกล่าวว่าการยั่วยุของกัมพูชาล่าสุดก็เป็นเรื่องปกติ เราต้องอดทนต่อการยั่วยุ ยิ่งเราอดทนได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ชาวโลกและนานาชาติได้เห็นว่าประเทศไทยเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง ด้วยวัฒนธรรมและประเพณีของเรา ประเทศไทยไม่เคยไปรุกรานใคร ไปดูจากประวัติศาสตร์ได้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาหรือสมัยกรุงธนบุรีจนมาถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ประเทศไทยเป็นฝ่ายถูกรุกรานมาโดยอดทนอดกลั้น บางครั้งต้องเสียอธิปไตยไป แต่บทเรียนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ประวัติศาสตร์เราก็เห็นความอัปยศอดสูที่เสียอธิปไตย สิ่งเหล่านี้ขอย้ำว่าตนเองจะไม่ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย

ยืนยันรัฐบาล-กองทัพเป็นหนึ่งเดียว

ผู้สื่อข่าวถามนายอนุทินว่า รัฐบาลบอกให้ประชาชนอดทน แต่ประชาชนบอกว่าที่ผ่านมาก็อดทนกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชามามากแล้ว อยากจะเห็นจุดยืนและความชัดเจนของรัฐบาล เพราะไม่อยากอพยพหรือวิ่งหนีระเบิดอีกแล้ว นายอนุทินตอบว่า คำว่า “อดทน” คือประเทศไทยเราต้องอดทน   ส่วนเรื่องประชาชน รัฐบาลจะเร่งจัดการให้ มีการดูแลความปลอดภัยให้กับพวกเขา มันถึงเวลาที่จะต้องมีการตอบโต้ และในขณะนี้จะไม่เหมือนกับการทำงานในรัฐบาลชุดที่แล้ว นายอนุทินชี้แจงว่าที่พูดไม่ได้จะไปโทษรัฐบาลที่แล้ว แต่ตอนที่ตนเองอยู่ในรัฐบาลที่แล้วก็ควบคุมฝ่ายปกครอง แต่ก็ยังไม่สามารถเชื่อมต่อฝ่ายทหารได้ 100% พอมารัฐบาลชุดนี้จึงไม่ต้องมีรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เราจะต้องให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศเป็นพิเศษ นายกรัฐมนตรีจะดูเอง ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง และตำรวจขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี จึงจะต้องทำให้สามกำลังนี้ผนึกเป็นหนึ่งเดียวที่จะดูแลความปลอดภัยของประเทศ และจะต้องดูแลไม่ให้ประเทศไทยถูกรุกราน

...

1 ตุลาคมรีสตาร์ทใหม่

ส่วนจะตอบโต้กัมพูชาอย่างไรนั้น เพราะอยู่ในช่วงที่เปลี่ยนแม่ทัพภาคที่ 2 นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องถือว่าทุกคนเข้ามาเริ่มงานวันที่ 1 ตุลาคม ถือว่าเราไม่มีอะไรค้างคาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ วันที่ 1 ตุลาคมก็จะกดปุ่มรีสตาร์ทใหม่ คราวนี้ทุกคนก็ต้องเชื่อรัฐบาล ทุกคนต้องทำตามนโยบายและข้อสั่งการของรัฐบาล

เมื่อถามต่อว่ารัฐบาลจะมีนโยบายแก้ปัญหาชายแดนมากกว่ารัฐบาลที่แล้วหรือไม่ ประชาชนในพื้นที่จะได้อุ่นใจ นายอนุทินกล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุที่ต้องมีการอพยพชาวบ้านออกมา พรรคภูมิใจไทยขณะนั้นยังไม่เป็นรัฐบาล ก็ยังดูแลประชาชนได้อย่างเต็มที่ สามารถจัดการศูนย์พักพิง ศูนย์อพยพ ครอบคลุมและรวดเร็วในทุกจังหวัดที่มีเหตุอันตราย แต่ตอนนี้เป็นรัฐบาลแล้ว เรามีกลไกของรัฐบาลและความคล่องตัว การรู้จักพื้นที่และความต้องการของประชาชนจึงมั่นใจว่าจะบูรณาการทำงานด้วยกันกับฝ่ายปกครอง ต้องดูแลประชาชนตั้งแต่การกิน การอยู่ การนอน และความปลอดภัย ส่วนกองทัพก็ต้องรักษาอธิปไตยของชาติอย่างเต็มที่ ฝ่ายการทูตจะไปพูดคุยอะไรก็แล้วแต่ตามสถานการณ์ แต่ต้องยึดประโยชน์ของประเทศไทยเป็นสิ่งสูงสุด นายอนุทินยังกล่าวต่อว่าทั้งหมดไม่ใช่คำมั่นสัญญา แต่คือสิ่งที่ต้องทำ

“อนุทิน” ยัน คิดถูกมอบรัฐมนตรี กต.

นายอนุทินยังกล่าวถึงถ้อยแถลงของนายสีหศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในเวที UNGA ด้วยว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปโดยมติคณะรัฐมนตรี คิดว่าเรื่องที่ทำเป็นเรื่องที่สง่างามและทำให้ประเทศไทยมีศักดิ์ศรี ทำให้คนรู้ว่าประเทศไทยรักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ทั้งนี้ตนเองควรจะต้องไปด้วยซ้ำ และไม่ต้องมานั่งถามว่าไปได้หรือไม่ได้ การไปรักษาประเทศโดยที่รัฐบาลยังไม่ได้แถลงนโยบายเป็นคนละเรื่องกันเลย แต่ตนมั่นใจในประสบการณ์และความสามารถของนายสีหศักดิ์ ถึงกล้ามอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในขณะที่ตนเองจะได้แถลงนโยบายให้ที่ประชุมรัฐสภารับทราบ เพื่อรัฐบาลจะได้เริ่มดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินได้ทันเวลา 4 เดือนแล้วยุบสภา ให้สัญญา