เพื่อไทย ยันการรักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่รัฐบาล เหน็บ สส.ภูมิใจไทย อยู่ในห้องประชุมแต่ไม่แสดงตน หวังเล่นเกมการเมือง เตือนพรรคประชาชนอย่าอุ้มรัฐบาลสีน้ำเงินจนเกินงาม
วันที่ 28 กันยายน 2568 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวช่วงหนึ่งที่พรรคเพื่อไทย ถึงกรณีสภาล่มระหว่างมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... หรือ พ.ร.บ.อากาศสะอาด และมีความพยายามเสนอญัตติกรณีแผ่นดินทรุดตัวที่แยกวชิรพยาบาล ใกล้กับจุดก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วง ว่า พรรคเพื่อไทยขอชี้แจงต่อสาธารณชนอย่างชัดเจน การกล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยมีส่วนทำให้สภาล่มนั้นไม่ตรงกับข้อเท็จจริงและไม่เป็นธรรมต่อพรรค
นายดนุพร กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากตามหลักการประชาธิปไตยและประเพณีปฏิบัติทางสภา ฝ่ายรัฐบาลจะต้องมีเสถียรภาพมีหน้าที่โดยตรงในการเป็นผู้รักษาองค์ประชุม หากรัฐบาลไม่สามารถรักษาองค์ประชุมได้ ก็สะท้อนถึงที่มาอันผิดปกติจนมาเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และยังสะท้อนถึงความล้มเหลวในการจัดการเอกภาพภายในพรรคร่วมรัฐบาลเอง ไม่อาจโทษฝ่ายค้านได้
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยขอให้สังคมอย่าหลงลืมว่า MOA ระหว่างพรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ที่ทั้งสองพรรคลงนามร่วมกันนั้น มีระบุไว้ชัดเจนว่าจะร่วมกันรักษาองค์ประชุมสภา เพื่อให้การทำงานเดินหน้าได้ แต่ในทางปฏิบัติกลับเป็นฝ่ายรัฐบาลเองที่ไม่สามารถทำตามข้อตกลงที่ได้ลงนามไว้
อีกทั้งพรรคเพื่อไทยเห็นว่า การพยายามโยนความผิดให้ฝ่ายค้าน เป็นการบิดเบือนความจริงและเป็นการหนีความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาล หากไม่สามารถรักษาองค์ประชุมได้ก็ควรยอมรับต่อประชาชนว่ารัฐบาลมีปัญหาภายใน และมีปัญหาต่อ MOA ไม่ใช่กล่าวหาเพื่อปกปิดความล้มเหลวของตนเอง
...
“พรรคเพื่อไทยขอย้ำว่า ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ และรัฐบาลต้องเป็นผู้รักษาเสียงของตนเองในสภา หากยังไม่สามารถทำได้ ก็เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนว่ารัฐบาลชุดนี้มาอย่างฝืนธรรมชาติ ขาดความพร้อมและเอกภาพในการทำงานตั้งแต่ต้น”
พร้อมกันนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่าในเหตุการณ์ล่าสุด สส.พรรคภูมิใจไทยจำนวนหนึ่งแม้อยู่ในห้องประชุม แต่กลับไม่กดแสดงตน จนนำไปสู่การขาดองค์ประชุม สังคมจึงมีสิทธิที่จะตั้งคำถามว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองเพื่อโยนความผิดให้ฝ่ายค้าน และพยายามเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องถนนยุบหรือไม่
ในช่วงท้าย โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังเรียกร้องไปยังพรรคประชาชน ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้ำรัฐบาล ว่า ควรกล่าวหาให้ถูกคน อย่าพยายามปกป้องหรืออุ้มพรรคภูมิใจไทยและรัฐบาลสีน้ำเงินจนเกินงาม อย่าลืมว่าการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้โหวตกันเข้ามาด้วยเสียงข้างมากถึง 311 เสียง และขอให้พรรคประชาชน ระมัดระวังการกระทำและการสื่อสารในทำนองว่าเป็นผู้สนับสนุนพรรคภูมิใจไทยเกินหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะทุกวันนี้สังคมก็มองพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้ำรัฐบาลอยู่แล้ว อีกทั้งล่าสุดยังมีการสื่อสารในทำนองเลือก สส.บางพรรคได้นายกรัฐมนตรีอีกพรรค ไม่ตรงกับเจตนารมณ์ประชาชนจนผู้คนจับสังเกตได้หมดแล้ว.