“พล.ต.ท.รุทธพล” เข้ากระทรวงยุติธรรม ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้งานราบรื่น ยัน ไม่แทรกแซงเขากระโดง-ฮั้ว สว. เผย รฟท. จ่อฟ้องคู่กรณี 900 ราย ลั่น จะเป็นคนบุรีรัมย์หรือจังหวัดไหนก็กฎหมายเดียวกัน


เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 26 กันยายน 2568 พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงยุติธรรมอย่างเป็นทางการวันแรก และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่ง พล.ต.ท.รุทธพล โดยสารมาด้วยรถตู้ Mercedes-Benz สีดำ ทะเบียน ฬย 9595 กรุงเทพมหานคร สวมสูทและกางเกงสีน้ำเงินเข้ม ผูกเนคไทสีเดียวกัน โดยมี นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ร่วมคณะ ทั้งนี้ พล.ต.ท.รุทธพล มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส กล่าวทักทายพูดคุยกับข้าราชการกระทรวงยุติธรรมอย่างเป็นกันเอง โดยเฉพาะ นายศุภชัย ที่มีสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมพูดคุยกับคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม

จากนั้นเวลา 10.50 น. รมว.ยุติธรรมคนใหม่ ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (รัชกาลที่ 8) โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมพร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมให้การต้อนรับ บริเวณตราดุลพาห ชั้น 2 ต่อมาสักการะพระภูมิพลาภิบาลทศพลญาณมุนี พระประจำกระทรวงยุติธรรม บริเวณด้านหน้าอาคารกระทรวงยุติธรรม ต่อด้วยสักการะศาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และศาลตายาย บริเวณด้านหลังอาคารกระทรวงยุติธรรม แล้วจึงไปยังห้องทำงาน รมว.ยุติธรรม ชั้น 11 ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) และรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)

...


ขอพรทำงานราบรื่น ลุยปราบปรามพนัน-ยาเสพติด-สแกมเมอร์

ในเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.รุทธพล ให้สัมภาษณ์ว่า ตนรู้สึกดีใจที่ได้มารับตำแหน่งในฐานะ รมว.ยุติธรรม ซึ่งตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งรัฐมนตรี และจนถึงวันที่ตนได้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก็ยังไม่ได้มาพูดคุยกับพี่น้องสื่อมวลชน ซึ่งตนเข้าใจว่าอยากสอบถามอะไรต่างๆ แต่ก็ต้องเน้นย้ำว่าอาจติดในเรื่องของกฎหมาย ระเบียบต่างๆ ที่ต้องผ่านขั้นตอนการถวายสัตย์ฯ ไปก่อน วันนี้ตนเข้ากระทรวงยุติธรรมครั้งแรกก็อยากมาพูดคุยกับพี่น้องสื่อมวลชน

ขณะที่เรื่องของการบริหารงานต่างๆ ในกระทรวงยุติธรรม เรื่องของนโยบาย ตนขอเป็นหลังจากที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 กันยายนนี้ก่อน หลังจากนั้นกระทรวงยุติธรรมก็จะมีการแถลงนโยบายเช่นเดียวกัน ซึ่งร่างนโยบายของกระทรวงยุติธรรม สื่อมวลชนอาจทราบอยู่แล้ว

ส่วนคำถามว่าวันนี้ขอพรประการใดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ระหว่างสักการะนั้น พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ตนได้กราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกจุดของกระทรวงยุติธรรม ขอพรให้ทำงานราบรื่น เพราะตนก็เคยเป็นข้าราชการประจำมาก่อน อายุราชการ 41 ปี ก็ถือว่าผ่านการทำงานมาพอสมควร สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่สามารถพูดได้คือเรื่องการปราบปรามการพนันและยาเสพติด ที่เราพูดได้เพราะว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลเหมือนกัน โดยจะเน้นไปที่การปราบปรามพนันออนไลน์ สแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์

ในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ตนขอย้อนไปว่าสมัยรับราชการประจำ ได้ทำงานเกี่ยวกับการปราบยาเสพติดมาก่อน เชื่อว่าไม่มีปัญหาในการทำงานด้านยาเสพติดแน่นอน เพราะเรามีฐานข้อมูลอยู่แล้ว เรื่องสแกมเมอร์ เราก็จะเร่งรัดเต็มที่ เพราะทราบว่าทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็มีปฏิบัติการจับกุมการขุดบิตคอยน์เถื่อน ลอบใช้ไฟฟ้าหลวงจนทำให้การไฟฟ้าฯ ได้รับความเสียหายพันกว่าล้านบาท อีกทั้งยังมีเรื่องของการจับกุมละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนคำถามว่าการปราบปรามการพนันออนไลน์และยาเสพติดมีตัวชี้วัดเป้าหมายอย่างไรนั้น ตนอยากเรียนว่าหน่วยงานมีตัวชี้วัดอยู่แล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ก็มีการสกัดพื้นที่ชั้นใน ชั้นนอก โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ดำเนินการมาต่อเนื่อง  



ยันไม่แทรกแซงคดีฮั้ว สว.-เขากระโดง รฟท. จ่อยื่นฟ้องคู่กรณี 900 ราย

พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวต่อไปว่า เรื่องคดีคงค้างอื่นที่ติดค้างมาจากรัฐบาลชุดเก่าให้ว่ากันไปตามกฎหมาย หน่วยงานใดรับผิดชอบก็ดำเนินการต่อไป เพราะในฐานะ รมว.ยุติธรรม ก็คงกำกับนโยบายเพียงเท่านั้น ยึดหลักนิติธรรมให้เป็นไปตามกฎหมาย อันไหนที่เขาทำมาแล้วก็ให้ดำเนินการต่อไปได้เลย

“ส่วนของคดีฮั้ว สว. ทราบว่าเป็นการดำเนินการของทาง กกต. อยู่แล้ว ก็ให้ กกต. รับผิดชอบดำเนินการไป ส่วนคดีเขากระโดง ก็ให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการไปได้ ซึ่งจริงๆ แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือการรถไฟแห่งประเทศไทย และกรมที่ดิน และเท่าที่ทราบ รฟท. จะยื่นฟ้องคู่กรณีประมาณกว่า 900 ราย เพราะถือคติว่าจะยื่นฟ้องทั้งหมด ก็คงจะต้องรอคำพิพากษาของศาลในส่วนนี้”

ทางด้านประเด็นที่หลายฝ่ายกังวลว่ารัฐบาลชุดนี้ หรือ รมว.ยุติธรรม จะเข้าไปแทรกแซงการทำคดีนั้น พล.ต.ท.รุทธพล ระบุว่า ไม่หรอก ตนไม่คิดที่จะแทรกแซง เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน การจะเข้าไปแทรกแซงมันต้องคิดให้ดี แต่รายละเอียดความคืบหน้าทางคดีต่างๆ ต้องสอบถามกับทางปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน ส่วนหน่วยงานไหนรับผิดชอบก็ให้ดำเนินการได้เลย คดีอาญาอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ซึ่งดีเอสไอรับผิดชอบอยู่นั้น ให้ดีเอสไอดำเนินการต่อเนื่องได้เลย เพราะในเรื่องนี้บางคนก็บอกกลัวว่าตนจะมาแทรกแซง ตนอยากเรียนว่า คดีทั่วไปแม้ลัก วิ่ง ชิง ปล้น มันก็จะมีข้อกฎหมายกับข้อเท็จจริงอยู่

“ต่อให้เป็นคน จ.บุรีรัมย์ เชียงราย ยะลา อุบลราชธานี แม่ฮ่องสอน ก็มีกฎหมายเดียวกันทั้งหมด ข้อเท็จจริงทางดีเอสไอดำเนินการมาตั้งนานแล้ว ซึ่งรายละเอียดต่างๆ คงต้องสอบถามทางปลัดยุติธรรมว่าความคืบหน้าคดีจะมีมากน้อยแค่ไหน”

ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามอีกว่า นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการอะไรเกี่ยวกับ 2 คดีนี้เป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล ตอบว่าไม่มี เมื่อถามว่าตอนนี้คดีเขากระโดงในส่วนที่ดีเอสไอรับผิดชอบยังเป็นเพียงเรื่องสืบสวนเท่านั้น มีโอกาสจะรับเป็นคดีพิเศษในเร็ววันนี้หรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า “ไม่ทราบเลยครับ คงต้องค่อนข้างระมัดระวัง เพราะไม่รู้ว่าการเข้าไปดูจะเป็นการไปแทรกแซงหรือไม่ อย่างที่ทราบเวลาของรัฐบาลนี้มีเพียง 4 เดือน หากเข้าไปแทรกแซงแล้วมีคนไปร้องศาล ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็คงไม่สามารถทำงานได้ตามนโยบายของรัฐบาลได้”