“สุชาติ” ยัน หอบก๊วน สส.-ครอบครัวอังกินันทน์ ซบภูมิใจไทยเร็วๆ นี้ เหลือคุยจัดสรรผู้สมัคร สส.เขตลงตัว มองให้สิทธิ สส.เดิมก่อน ไร้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน แจงร่วมงาน “เอกนัฏ” ไม่มีปัญหา
เมื่อเวลา 13.05 น. วันที่ 25 กันยายน 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แกนนำกลุ่ม 16 ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงความชัดเจนของกลุ่ม 16 จะไปสังกัดพรรคใด ว่า จริงๆ ชัดเจนนานแล้ว แต่ด้วยมารยาทและเพื่อนบางท่านยังสังกัดพรรคการเมืองเดิมอยู่ แต่ที่จริงเราได้หารือกันหมดแล้วยืนยันว่าตนและทีมงานผู้ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยเฉพาะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ โดยส่วนตัวรู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้ว และจริงๆ บ้านเราก็อยู่ติดกันมานาน ความผูกพันและสิ่งที่เราได้เห็นการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ตนได้รับโอกาส ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนั้นนายอนุทินเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเราทำงานด้านโควิด-19 มาด้วยกัน เรารู้ว่าท่านเป็นคนทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง และเป็นคนมีฝีมือ
นายสุชาติ ระบุต่อไปว่า สิ่งที่เราตระหนักคือเรื่องประเทศชาติบ้านเมือง ไม่มีผลประโยชน์ของตัวเอง ตนขอพูดอย่างชัดเจนว่าเร็วๆ นี้ตนและทีมงานแต่ละจังหวัดจะไปสมัครพรรคภูมิใจไทย เช่น จ.เพชรบุรี ครอบครัวอังกินันทน์ ซึ่งตนได้คุยกับทางนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรีแล้วเมื่อช่วงเช้า ซึ่งภรรยาของท่านก็เป็น สส.อยู่ด้วย และยังมีทีม สส.อีกหลายจังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดมีแกนอยู่แล้วจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ขณะนี้กำลังประสานหารือกับนายอนุทิน และแกนนำของพรรคภูมิใจไทยอยู่ รอแค่วันเวลาเท่านั้น เราต้องยอมรับว่ามีระยะเวลาทำงานแค่ 4 เดือน ตนก็ต้องเร่งงานในส่วนของภารกิจและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในหน้าที่ของรัฐมนตรีด้วย
...
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การย้ายพรรคครั้งนี้มีความชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ว่าในเรื่องของพื้นที่จะไม่ทับซ้อนกัน นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ทับซ้อนอยู่แล้ว ยกตัวอย่างที่ จ.นครศรีธรรมราช น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่กับเราก็ไม่ได้ทับซ้อน เพราะท่านเป็น สส.ในจังหวัดนั้นอยู่แล้ว และคนที่เป็น สส.อยู่ต้องได้รับสิทธิ์ก่อนในทางการเมือง ส่วน สส.บัญชีรายชื่ออย่างตนก็ต้องลงพื้นที่เอง ซึ่งตนเคยเป็น สส.เขตมาแล้วถึง 3 รอบ อย่างไรเรามีพื้นที่ลงอยู่แล้ว เราจะไม่ทำอะไรให้พรรคภูมิใจไทยหนักใจ และจะไม่ทำอะไรให้เพื่อนที่มาด้วยกันเสียสิทธิ เพื่อนที่มาทุกคนด้วยกันต้องได้สิทธิ
ส่วนที่ยากคือการไปพูดคุยกับผู้บริหารพรรคภูมิใจไทยในเรื่องสิทธิ์ของคนเดิมที่ได้เป็น สส.อยู่ ควรจะต้องได้สิทธิตามนั้น เรามากันเป็นทีมแบบพี่แบบน้อง เหมือนที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้พูดทำงานในคณะรัฐมนตรีเหมือนพี่น้อง นายกรัฐมนตรีก็พูดเหมือนกัน แต่กับตนถ้าทำงานการเมืองในภาค สส. ก็เหมือนพี่เหมือนน้อง เราทิ้งกันไม่ได้ ต้องเจรจากันในเรื่องนี้
สำหรับ สส.เดิม ที่มองว่าควรจะได้สิทธิแต่ในส่วนของผู้สมัครคนเดิมของพรรคภูมิใจไทยที่เคยแพ้ให้ สส.กลุ่ม 16 จะพูดคุยเรื่องนี้อย่างไร นายสุชาติ ระบุว่า ตนต้องไปคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทยในเรื่องนี้ แต่เชื่อว่าเรายืนบนพื้นฐานของนักการเมืองด้วยกัน เข้าใจว่าคนที่เป็นต้องได้รับสิทธิ์ก่อน คนที่สอบไม่ผ่านก็ต้องไปยืนในตำแหน่งอื่นทางการเมืองแทน
เมื่อถามย้ำจะต้องมีการทำโพลหรือไม่ นายสุชาติ เผยว่า พวกเราเป็น สส.กันแล้ว มันไม่ใช่การขายสินค้า บางทีก็ต้องให้เกียรติ สส. ซึ่งเขาเป็น สส.อยู่แล้ว เขาผ่านด่านมาเป็น สส. เขาเหนือกว่าผู้สมัครหลายๆ คน ต้องยอมรับในศักยภาพของเขา การที่มาทำโพลเขา เขาจะรู้สึกอย่างไร ทั้งหมดนี้จะต้องเป็นเรื่องที่มีการคุยกัน เพราะเป็นเรื่องของจิตใจที่มีความละเอียดอ่อนด้วย
“ต้องยอมรับว่าการที่เรามาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย มีความตั้งใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาหากตนคนเดียวมาได้อยู่แล้ว แต่มาทั้งทีต้องมาทั้งหมด จึงต้องมีการหารือในเรื่องพื้นที่”
ทางด้านคำถามว่า หากนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ จะไปร่วมกับพรรคภูมิใจไทยด้วย นายสุชาติ ระบุว่า ไม่มีประเด็น พรรคการเมืองเหมือนชายคาบ้านที่อบอุ่น วันนี้พรรคภูมิใจไทยเป็นที่อบอุ่นสำหรับตน และทุกคนในกลุ่มเห็นตรงกันว่าการทำการเมืองครั้งหน้าต้องไปอยู่พรรคภูมิใจไทย ด้วยความเคารพนับถือหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค โดยเฉพาะนายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคที่มีความกรุณาต่อตนเองหลายเรื่อง
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า ตนกลับไปนอนคิดหลายคำพูดว่าจะทำให้สื่อมวลชนหรือผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทย รวมถึงนายอนุทิน มีความวิตกกังวลอะไรหรือไม่ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้โทรศัพท์หาแกนนำของแต่ละจังหวัดแล้วทุกคนก็อนุมัติ เมื่อถามว่าจะไปในนามของกลุ่ม 16 ใช่หรือไม่ นายสุชาติ ตอบว่า ไปอยู่ในฐานะสมาชิกพรรค แต่อาศัยว่าขอดูแลพื้นที่ของเพื่อนเราที่สนิทสนม อาทิ ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ยืนยันว่าไม่มีใครประสานได้ดีเท่ากับตนเอง แม้ว่าตนจะไม่ได้มีทั้งภาค แต่ก็มีจังหวัดละ 2-3 คน
ขณะที่คำถามว่าจะเข้ามาดูแลในภาคตะวันออกใช่หรือไม่ นายสุชาติ เผยว่าแน่นอน ดูอย่างเต็มที่ เพราะพรรคภูมิใจไทยมีแกนหลักที่ดูแลภาคตะวันตก ก็มาผสมกันทำให้ดีขึ้น ผู้สื่อข่าวถามต่อ ในส่วนของภาคใต้อาจจะต้องชนกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) นายสุชาติ กล่าวว่า ทุกอย่างรู้อยู่แล้วว่าศักยภาพของใครเป็นอย่างไร เช่น ตนเองเป็นแชมป์อยู่แล้ว จะมาแข่งกับตนก็ต้องคิดเยอะ หรือถ้าตนจะไปแข่งกับแชมป์ก็ต้องคิดเยอะ ย้ำว่าหลีกให้กันไม่ได้ ต้องสู้กัน
อย่างไรก็ตาม นายสุชาติ เผยในช่วงท้ายด้วยว่า จะไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทยเร็วๆ นี้ แต่ขอคุยกับผู้ใหญ่ในเรื่องการจัดสรรลงสมัคร สส.เขต ให้ลงตัวก่อน.