“สุชาติ” อวย “นายกฯ อนุทิน” ครบเครื่อง เชื่อ 4 เดือนมีผลงานจับต้องได้ เล็งคุยปลัด ทส.-อธิบดี โยกคนมีคุณภาพมาทำงาน ใครมีปัญหาให้ย้ายออกเหตุมีเวลาน้อย อุบตอบพา สส.กลุ่ม 16 เข้าสังกัดพรรคใด


วันที่ 24 กันยายน 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงโควตาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในกลุ่ม 16 โดยระบุว่า ไม่ได้อยู่ในการพูดคุยกันตั้งแต่แรก ระยะเวลาการทำงานในกรอบ 4 เดือน สิ่งสำคัญที่สุดในการทำหน้าที่ สส. คือทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรทุกนัด ตนเองไม่ใช่ สส.แล้ว ก็ต้องทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ได้รับโปรดเกล้าฯ มาให้ดีที่สุด ระยะเวลา 4 เดือนถือว่าเร่งรัดมาก ซึ่งได้ประสานงานกับหน่วยงานและปลัดกระทรวงแล้วว่าอะไรที่สามารถทำได้ทันที

นายสุชาติ ย้ำว่า สิ่งสำคัญคือต้องคุยกับปลัดกระทรวงและอธิบดีทุกคนว่า ข้าราชการที่ท่านมีอำนาจแต่งตั้งโยกย้าย ท่านเอาคนที่มีคุณภาพมาทำงาน สิ่งแรก ส่วนไหนที่ไม่ดีท่านปัดกวาดบ้านของตัวเองให้ดี ส่วนไหนที่มีปัญหาส่วนนั้นก็ต้องย้ายออกไป ปัดกวาดบ้านตัวเองให้เร็วที่สุด นำคนที่มีคุณภาพเข้ามาทำงานให้เร็วที่สุด อันดับ 2 เรื่องของแผนเร่งด่วนเช่นเรื่องฝุ่น PM 2.5 เรื่องป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งต้องรักษาไว้และเพิ่มจำนวน อยากให้ทุกคนตั้งใจทำงานในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบให้ดีที่สุด รัฐมนตรีแค่มากำกับนโยบายที่ผ่านมาติดขัด

สำหรับอนาคตทางการเมือง นายสุชาติ เผยว่า ส่วนตัวไม่ได้มีสังกัดพรรคการเมือง แต่เพื่อนคนอื่นที่สังกัดพรรคเราต้องมีมารยาทนิดหนึ่ง หากพูดไปเพื่อนๆ อาจไม่สบายใจ แต่ระยะเวลา 4 เดือนข้างหน้าที่ตกลงไว้ยังมีเวลาทันที่จะไปสังกัดพรรคการเมืองภายใน 30 วัน เรามาร่วมรัฐบาล และเป็นกำลังให้นายกรัฐมนตรี เราตั้งใจและเลือกเฟ้นบุคคลที่เหมาะสมจะนำพาประเทศสู่เป้าหมาย มีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นธรรมเท่าเทียมกัน

...

ขณะที่กลุ่มอื่นๆ เริ่มชัดเจนแล้วว่าจะย้ายเข้าพรรคใดนั้น นายสุชาติ ยอมรับว่าเราคุยกันทุกวัน แต่ สส.ของเราทุกคนเขาเสียสละทำงานเพื่อประชาชน การจะไปสังกัดพรรคใดเราต้องดูว่าไปอยู่พรรคไหนแล้วจะไปทับซ้อนกับพื้นที่ของพรรคนั้นหรือเปล่า ต้องอยู่ที่เราเจรจากัน ความจริงกับพรรคภูมิใจไทยพื้นที่ของ สส. ไม่ทับซ้อนกันอยู่แล้ว แต่อาจต้องมีการทำความเข้าใจกับแกนนำของจังหวัดว่ามาอยู่ด้วยแล้วติดขัดอะไรหรือไม่ ถ้าติดขัดเราก็ต้องหาที่อยู่ใหม่ให้เขา

ส่วนคำถามว่าจะไปสังกัดพรรคใหม่เลยจะดีกว่าหรือไม่นั้น นายสุชาติ ระบุว่า ต้องพูดคุยกันก่อน เพราะต้องยอมรับว่า สส. ในกลุ่มตน หากไปอยู่พรรคภูมิใจไทยก็จะมีความง่ายในการหาเสียงเพราะเป็นหนึ่งเดียวกันหมด แต่บางพื้นที่ก็มีความยากในการจัดสรรคนเพื่อเจรจาเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่จำเป็นต้องประกาศให้ประชาชนรู้ เพราะการมาร่วมรัฐบาลของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เชื่อว่าผลงานที่ออกมาในเวลา 4 เดือนสามารถจับต้องได้แน่นอน

“ต้องยอมรับว่าท่านนายกรัฐมนตรีเป็นนักการเมืองมาตลอด ท่านก็รู้ความต้องการของประชาชน รู้ระบบการบริหารประเทศ การบริหารพรรคการเมือง และระบบกฎหมาย ท่านครบเครื่องอยู่แล้ว เชื่อว่าในเวลา 4 เดือนท่านทำงานได้ และพวกเราที่ทำงานร่วมกับท่านก็จะมีผลงานเอง และพี่น้องประชาชนจะเลือกตัวบุคคลเป็นหลักก่อน และต่อมาคือดูว่าพรรคการเมืองเป็นที่พึ่งพิงของประชาชนได้”

นายสุชาติ เผยต่อไปว่า ในกลุ่มถ้าจะย้ายไปสังกัดพรรคใดก็น่าจะย้ายไปด้วยกันทั้งหมด เพราะเราอยู่ในฐานะพี่น้อง และจำนวน สส. ในกลุ่มก็มีเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้มองว่าเป้าหมายต้องมีจำนวนมากน้อย เพราะเราคัดคนที่มีคุณภาพ อยู่กันแบบพี่น้อง แน่นอนว่าเราเดินมาขนาดนี้แล้วก็เป็นไปได้ว่าจะมีการเพิ่มจำนวนตามที่สื่อมวลชนคิด กลัวเรื่องคำพูดมากกลัวว่า ถ้าพูดไปแล้วถึงเวลามันไม่เป็นอย่างที่พูดไว้ มันจะเสียคำพูด

ผู้สื่อข่าวถามต่อ กลัวจะผิดข้อตกลงเรื่องรัฐบาลเสียงข้างมากหรือไม่นั้น นายสุชาติ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะดำเนินการตามคำพูดข้อตกลง นักการเมืองหากไม่รักษาคำพูดแล้วจะเดินไปเจอชาวบ้านได้อย่างไร เรื่องนี้สำคัญที่สุด ฝากสื่อมวลชนให้กำลังใจพวกตนและคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีเยอะๆ เพราะช่วงเวลา 4 เดือนนี้ถือว่าท้าทายมาก

“เชื่อมั่นว่าประชาชนตั้งความหวัง เพราะนโยบายแรกๆ ที่เปิดเผยออกมา เช่น นโยบายคนละครึ่ง เป็นสิ่งที่เราบอกว่านโยบายรัฐบาลใดในอดีตดี ท่านอนุทินไม่ได้ยึดติดว่าจะเป็นของใคร ถ้าประชาชนได้ประโยชน์เราหยิบมาทำ”

นายสุชาติ ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว จะเดินทางเข้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในวันศุกร์ (26 กันยายน) ที่จะถึงนี้ หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วจึงจะทำงานได้เต็มตัว ระหว่างนี้เราสามารถพูดคุยกันได้เฉยๆ แต่ยังไม่สามารถสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษรลงไปได้.