กมธ.ปกครอง สภาฯ ขยายปม “ส่วยสัญชาติ” จี้ อธิบดีกรมการปกครองเอาจริง หลังมีหลักฐานชัด เจ้าหน้าที่เรียกรับเงินชาวบ้าน หวัง นายกรัฐมนตรีเชือดเป็นคดีตัวอย่าง


เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 24 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม กมธ. วันนี้ ว่า มีวาระพิจารณาศึกษาและติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุคคลที่เกิดในราชอาณาจักรแต่ไม่ได้สัญชาติไทย โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล เช่น ปลัดกระทรวงมหาดไทย, อธิบดีกรมการปกครอง, ผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน, ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย โดยประเด็น 1. จริงหรือไม่ กรณีที่มีการร้องเรียนว่าบุคคลบางกลุ่มใช้ช่องทางนโยบายของรัฐบาลไปหาประโยชน์โดยการไปเรียกรับเงิน หรือหาผลประโยชน์ใดๆ จากพี่น้องประชาชนที่ควรจะได้รับสิทธิสัญชาติไทย 2. วิธีการและขั้นตอนในการอำนวยความสะดวกเนื่องจากมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาช่วงปลายปี 2567 และโครงการดังกล่าวมีระยะเวลา 1 ปี จะไปสิ้นสุดโครงการช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2569 เท่ากับยังมีเวลาเหลือมากพอสมควรที่มอบสัญชาติให้ แล้วติดขัดปัญหาจุดไหน เท่าที่ทราบคือ ต้องมีการจัดคิว จึงคาดว่าจะมีปัญหาในเรื่องของกำลังคน ซึ่งนโยบายของรัฐบาลถือเป็นเรื่องใหญ่ของกระทรวง จึงควรมีการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้

บี้ “อ.ปค.” เอาจริง มีหลักฐานชัด 

นายกรวีร์กล่าวต่อว่า หลังจากที่ กมธ. เปิดรับเรื่องร้องทุกข์ มีประชาชนให้เบาะแสส่งเอกสารหลักฐานที่มีการสนทนากับบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปเรียกรับเงินกับประชาชนที่เข้ามาติดต่อขอสัญชาติ มีหลักฐานการโอนเงิน, มีการเรียกรับเงินเป็นจำนวน 3 หมื่นบาท เป็นค่าดำเนินการ แต่ต้องโอนค่ามัดจำไปก่อน 1 หมื่นบาท แต่คนแจ้งเขามีแค่ 8 พันบาท กำลังจะไปหาอีก 2 พันบาท ทั้งนี้ ต้องไปดูว่าโยงถึงผู้มีอำนาจ ทั้ง ผู้ใหญ่บ้าน, นายอำเภอ, ปลัดอำเภอ ซึ่งคนในพื้นที่เขากังวลเรื่องความปลอดภัย อาจไม่กล้าออกมาเป็นพยานให้ ดังนั้น อธิบดีและรองอธิบดีกรมการปกครอง, นายอำเภอและผู้ว่าฯ ต้องจริงจังกับเรื่องนี้ ซึ่งเอกสารที่ กมธ.ได้รับมาทั้งหมด จะส่งต่อให้กรมการปกครองไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ใครที่ทำผิดต้องถูกลงโทษอย่างเด็ดขาด และต้องถูกปราบปราม เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจของรัฐในทางที่ไม่ชอบ ไปหากินบนความเดือดร้อนของประชาชน

...

หวัง “นายกฯ” เชือดเป็นตัวอย่าง

เมื่อถามว่า เรื่องที่รับแจ้งมามีทั้งหมดกี่เคส นายกรวีร์กล่าวว่า มี 4-5 กรณี และทราบว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมการปกครองส่งทีมลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐาน กมธ. เราจะซักต่อว่า เกิดในพื้นที่ใดบ้าง มีนายอำเภอและผู้ใหญ่บ้านเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือปลัดอำเภอที่ดูแลเรื่องทะเบียนรู้เห็นด้วยหรือไม่ หากพบว่าใครเกี่ยวข้อง ตนถือเป็นเรื่องใหญ่ กระทรวงมหาดไทยและรัฐบาลชุดใหม่ ที่นายกรัฐมนตรี เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ด้วย ตนอยากเห็นความจริงจังเข้มงวด เอาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด เมื่อถามย้ำว่า มีเจ้าหน้าที่ยศใหญ่กว่าปลัดอำเภอเกี่ยวหรือไม่ นายกรวีร์กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ที่ระดับอำเภอ เพราะเรื่องนี้สามารถทำเสร็จที่อำเภอได้ กรมการปกครองต้องสอบสวนข้อเท็จจริงให้ได้ว่า เรื่องนี้จบที่แค่อำเภอ หรือสูงกว่าระดับอำเภอ กระทรวงมหาดไทยต้องทำให้เห็นว่า เราจริงจังกับเรื่องนี้