“อนุทิน” ควง “จ๋า ธนนนท์” กราบสรีระสิ่งศักดิ์สิทธิ์-สังขารหลวงปู่สรวง ขอพรประเทศร่มเย็น ประชาชนอยู่ดีกินดี ยันไม่เปิดด่าน ลั่น “คนละครึ่ง” 1 เดือนมาถึงมือแน่ มั่นใจชนะเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ
วันที่ 21 กันยายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ช่วย นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย หาเสียงต่อที่บริเวณอาคารอเนกประสงค์ของที่ว่าการอำเภอภูสิงห์ ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่เดินทางมาร่วมฟังการปราศรัยและการลงพื้นที่ของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเต็มพื้นที่
นายอนุทิน ขึ้นปราศรัยอีกครั้งว่า ก่อนมาที่นี่ตนได้ไปกราบหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และกราบสรีระร่างของหลวงปู่สรวง เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังกราบเสร็จมีชาว อ.ภูสิงห์ มารอเจอจึงได้แวะทักทาย จึงอยากขออภัยชาวบ้านที่ทำให้รอนาน และต้องขอขอบคุณที่ให้ความรักและความอบอุ่นขนาดนี้
...
จากนั้น นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า วันที่ 28 กันยายนนี้ขอให้เราได้ สส.ใหม่ อย่างนางสาวจินณ์ตวรรณ หรือ ครูอีฟ ใครเห็นด้วยช่วยตบมือ และขออย่ากาผิดเบอร์ ก่อนย้ำอีกว่า ครูอีฟเป็นลูกชาวศรีสะเกษโดยกำเนิด ชาวบ้านก็น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ครั้งก่อนชาวศรีสะเกษเลือก สส.พรรคภูมิใจไทย มาแล้ว 2 คน ครั้งนี้ขอให้ช่วยเลือกพรรคภูมิใจไทยกลับมายกทั้งจังหวัด
นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า การบริหารราชการแผ่นดินในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยถือว่าเป็นยุคที่ต้องเล่นการเมืองทำการเมืองด้วยการรับใช้พี่น้องแบบยกทีม โดยเฉพาะวันนี้ที่มาเป็นรัฐบาลแล้ว การที่ได้ สส.ยกทีม เพื่อรับใช้พ่อแม่พี่น้องอย่างเต็มที่ ตอนนี้ปัญหาที่หนักคือชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อถึงขนาดนี้ จึงขอย้ำว่าจะไม่เปิดด่าน ก่อนหน้านี้ไปที่ อ.ขุนหาญ ชาวบ้านก็บอกไม่ให้เปิดด่าน มา อ.ภูสิงห์ ชาว อ.ภูสิงห์ก็ ไม่ให้เปิดด่านเหมือนกัน ทั้งขุนหาญ ทั้งภูสิงห์ ทั้งจังหวัดศรีสะเกษ และคนไทยทั้งประเทศก็ไม่อยากให้เปิดด่าน
ยันไม่เปิดด่าน ย้ำใน 1 “เดือนคนละครึ่ง” ถึงมือแน่นอน
ก่อนย้ำถามว่าตนเป็นใคร ตนเป็นนายกฯ จะกล้าเปิดด่านหรือไม่ ตนกลัวพี่น้องประชาชนมากที่สุด กลัวจะโดนกระทืบ กลัวพี่น้องคนไทยมากกว่าคนกัมพูชา เพราะฉะนั้นเรื่องเปิดด่านไม่มีอย่างแน่นอน ขออย่าไปฟังใครพูด ส่วนเรื่องของนโยบายต่างๆ วันนี้ตนและคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงผู้ใหญ่ที่เคารพก่อนหน้านี้ได้ปราศรัยให้ชาวบ้านทุกคนฟังแล้ว ยืนยันว่าเขาพูดอะไรไว้ เราจะทำตามที่พูด เพราะพรรคภูมิใจไทยพูดแล้วทำ
“เดือนนี้เป็นเดือนวันเกิดของผม ขอของขวัญวันเกิดด้วยการเลือกครูอีฟเป็น สส.พรรคภูมิใจไทย อะไรที่เดือดร้อน อะไรที่ชาวบ้านต้องการ ทั้งเรื่องของพืชผลทางการเกษตร ราคามันสำปะหลัง และเรื่องการปิดด่าน ผมก็จะปิดจนกว่ากัมพูชาจะยอม เราจะไปดูแลราคาพืชผลทางการเกษตรทั้งหมด รัฐบาลที่กำลังจะเข้าไปทำงานมีแต่พวก มีพรรคร่วมรัฐบาล เราจึงไม่กลัว พร้อมย้ำว่าภายใน 1 เดือนนี้โครงการคนละครึ่งจะมาถึงมืออย่างแน่นอน”
สำหรับวันพุธที่ 24 กันยายนนี้ คณะรัฐมนตรีและตนจะเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน และเข้าทำงานอย่างเป็นทางการ ขอให้ชาวศรีสะเกษได้สบายใจว่าเราจะทำงานให้พี่น้องอย่างแน่นอน เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว และปีงบประมาณจะเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ มีงบประมาณรออยู่ มีงบฯ ที่จะเอามาใช้พัฒนาบ้านเมืองและจะเอามาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ตนจะเอารัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นมาเดินสายทั่วประเทศ และกำกับดูแลเรื่องงบประมาณ โดยมี นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จะอยู่ติดตัวทำงานควบคู่กันไป เห็นปัญหาตรงไหนแก้ปัญหาตรงนั้น ใช้เวลาที่มีอยู่อย่างเต็มที่
“ขอชาวบ้านอย่ากลัว แม้ว่ารัฐบาลของตัวเองจะมีเวลาจำกัดแต่ทำงานเต็มที่ ดีกว่ามีเวลายาวแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเราพูดแล้วทำ เพราะคณะรัฐมนตรีเป็นคนของพี่น้องประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดศรีสะเกษ หรือจังหวัดอุบลราชธานี โดยจะร่วมมือทำงานกันเป็นทีม”
ขอพรประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข มั่นใจชนะเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ
นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้ายของการปราศรัยว่า วันนี้ตนมาพร้อมกับสายฝน ทำให้อากาศไม่ร้อนเกินไป ก็ขออีกครั้งว่าขอให้เลือกครูอีฟ แบบให้ทำงานกันทั้งโคตร ก่อนที่นายอนุทินจะจำแนกสาแหรกตระกูลไตรสรณกุล และถามหานางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล ว่าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และย้ำว่า ตระกูลนี้มีเครือข่ายเป็น สส. และนักการเมืองท้องถิ่นทั้งหมด ทำงานให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่เรียกได้ว่าครบวงจร และขอให้อาทิตย์หน้าเข้าคูหากาครูอีฟ
ผู้สื่อข่าวถาม นายอนุทิน หลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ อ.ภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ ได้ขอพรอะไร นายอนุทิน เผยว่า “ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้” เมื่อถามต่อไปว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า “ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้”
ต่อมา นายอนุทิน ยังได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ แวะทักทายพ่อค้าแม่ค้า และได้ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง พร้อมพูดคุยกับชาวบ้าน จากนั้นขึ้นรถอีแต๊กพร้อมด้วย นางสาวจินณ์ตวรรณ และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ นายภราดร, นางสาวแนน บุญย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย และนางสาวไตรศุลี หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก สนุกสนาน ชาวบ้านได้มาขอถ่ายรูปและพูดคุยกับนายอนุทิน ซึ่งในการหาเสียงครั้งนี้ นางสาวธนนนท์ นิรามิษ คู่สมรสของนายอนุทิน ได้ร่วมหาเสียงด้วย พร้อมเผยด้วยว่า เหมือนสานฝันวัยเด็ก ตอนเด็กอยากเป็นนางนพมาศ แต่ว่าอ้วนดำเลยไม่ได้เป็น ก็เลยสานฝันอยากขึ้นรถแห่.
