“นายกฯ อนุทิน” ลั่น หายไป 2 เดือนเหมือนลาพักร้อน บอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงให้กลับมา คนที่เอาตนออก ก็ออกไปเสียเอง เดี๋ยวจะไปถามปลัด มท. สาเหตุย้ายผู้ว่าฯ บอกแย่ เล่นการเมืองคิดถึงแต่ตัวเอง บอกไม่กลัว อ่างทอง อยุธยา ยังไงก็ให้ภูมิใจไทย
วันที่ 20 ก.ย. 2568 ที่ศูนย์สภากาชาดไทยเวชพาหน์เฉลิมพระเกียรติ หมู่ 9 ตำบลบางจัก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ โดยมีนายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง บรรยายสรุป
โดยภายหลังจากที่นายอนุทินรับฟังรายงานเสร็จสิ้นได้กล่าวกับชาวบ้านว่า ทราบมาว่าช่วงนี้มีสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้บ้านเรือนของประชาชนทั้งหลายประสบความเสียหาย เราไม่ได้นิ่งนอนใจ แม้จะยังไม่ได้เข้าไปบริหารบ้านเมืองอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้มีการโปรดเกล้าฯ ให้ตนและคณะรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว ด้วยความเป็นห่วงจังหวัดอ่างทอง จังหวัดอยุธยา ถือเป็นจังหวัดที่มีความใกล้ชิดกับตนเองและสนิทสนมกับตนเองเพราะได้ให้ผู้แทนราษฎรกับตนยกจังหวัด และให้นายภราดร ปริศนานันทกุล และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล มาทำหน้าที่เพื่อชาวอ่างทอง อย่างน้อยก่อนที่จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ก็ขอตอบแทนพี่น้องที่ให้ความไว้วางใจตนเองและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งตนได้เสนอชื่อนายภราดร ปริศนานันทกุล หรือ สส.แบด ได้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเขาก็จะได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เฉพาะอ่างทอง ต้องดูแลทุกส่วนของประชาชนทั่วประเทศ การที่ให้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ดูแลสำนักงบประมาณด้วย เพื่อที่จะได้มีความคล่องตัวในการจัดสรรงบประมาณที่จำเป็นมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน หากเจออุทกภัย งบการช่วยเหลือรายครัวเรือนเป็นอย่างไร จะได้จัดลงมาทันที ตลอดจนงบการวางแผนป้องกันน้ำท่วม เราสามารถบูรณาการร่วมกันได้ รัฐบาลของตนจะไม่มีคำว่าพัก พรรคนี้พรรคนั้นจะมีแต่พวกเดียวกัน พวกของพี่น้องประชาชน เราจะทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ ตรงไหนใช้ทรัพยากรอย่างไร ใช้งบประมาณอย่างไร พวกเราจะสนับสนุนซึ่งกันและกัน ประชาชนก็ได้คลายทุกข์คลายความเสียหาย เราสู้ธรรมชาติไม่ได้ เราทราบดี แต่เราก็จะพยายามหาทางป้องกันให้ธรรมชาติในบางช่วงทำความเสียหายให้กับพวกเราน้อยที่สุด
...
“ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย เพิ่งพ้นหน้าที่ไปเมื่อประมาณ 2 เดือนกว่าๆ ถือว่าไปพักร้อน 2 เดือนกว่า เขาไม่ให้ทำงาน ให้ออกไป แต่สุดท้าย คนที่เอาผมออกไปก็ต้องออกไปเอง และตอนนี้ผมก็กลับเข้ามาแล้ว สิ่งที่ตนได้ทำค้างคาอยู่ก็จะมาสานต่อ ก่อนออกไปได้เตรียมเรื่องพวกนี้ เดินสายอยู่แถวนี้ อยุธยา ปทุมธานี อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท เพราะน้ำเวลามา มาเป็นสายเดียวกัน ก็ต้องเตรียมว่าเวลาผันน้ำออกไปตรงไหน เตรียมขอบคุณประชาชนที่มีพืชสวนไร่นา เอาน้ำมากองตรงนี้ เพื่อที่น้ำไม่ไปรบกวนและทำความเสียหายให้กับจังหวัดอื่น เราเตรียมแผนไว้หมด และเราเตรียมเงินที่จะไปดูแลพวกเขา ที่ทำการกักน้ำไว้ให้เรา แต่พอออกไปเหมือนเป็นการเมืองคนละขั้ว เขาก็ไม่กล้าทำต่อ กลัวทำต่อไปแล้วผมได้คะแนน ตอนนี้ฟ้าดินสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ผมกลับมาแล้วครับ ทุกอย่างที่ได้เตรียมการเอาไว้ จะได้รับการสืบต่อ ดูสิ ผู้ว่าฯ ยังถูกย้ายเลย เดี๋ยวผมจะเข้าไปถามปลัดกระทรวงมหาดไทยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงย้าย ทำอะไรผิดหรือไม่ แย่จังเลย เล่นการเมืองก็คิดถึงตัวเราเอง กับตัวพรรคการเมืองคู่แข่ง ต้องคิดถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง ต้องคิดถึงประชาชนก่อน เพราะฉะนั้นตนกลับเข้ามาความเป็นธรรมทั้งหลายก็จะเกิดขึ้น ความผาสุก ความสุข ย้ายผู้ว่าคนเดียวทำให้ประชาชนเดือดร้อนไปหมด ฉะนั้นต้องทำให้ประชาชนไม่เดือดร้อน ความเป็นธรรมจะต้องมีอยู่ และสิ่งที่กระทำก็จะทำต่อไป สิ่งที่ได้ทำมาแล้วและมีอยู่ ก็ถูกตัดตอน เพราะกลัวว่าพวกผมจะได้คะแนน จริงๆ ผมไม่กลัวหรอกครับ เพราะยังไงก็เลือกภราดร ยังไงก็เลือกกรวีร์ อยู่อยุธยา ยังไงก็เลือกสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ทีมผมดีๆ ทั้งนั้นเลยเพราะมาทำงาน นอกจากนี้ยังมีนายสิริพงศ์ อังคะสกุลเกียรติ จะมาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี สมัยที่ตนยังไม่ออกจากรัฐบาลเขาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีศึกษาธิการ ทำหนังสร้างเศรษฐกิจ จำได้ไหม หนังเรื่องสัปเหร่อ ทำรายได้ให้กับคนไทยเป็นพันล้าน สร้างความเชื่อมั่น สร้างวัฒนธรรมไทยๆ ให้คนไทยได้ภาคภูมิใจ เราเอาแต่คนเก่งๆ มาทำงานให้กับประชาชน" นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน ยังกล่าวต่อว่า คนดีอุทัยธานี อ่างทอง อยุธยา ชัยนาท สิงห์บุรี ส่วนกลางของประเทศไทย เราจะต้องเป็นทีมเดียวกัน เพื่อที่จะทำประโยชน์ให้กับพ่อแม่พี่น้องให้ได้มากที่สุด แล้วจะทำงานให้เป็นเครือข่าย ไม่ใช่แก้ทีละจังหวัด ซึ่งต้องแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบ และเกิดการร่วมมืออย่างเต็มที่ ฉะนั้น ขอให้พี่น้องวางใจได้
“อย่าให้ใครมาไล่ผมอีกล่ะ โอ้โห หายไป 2 เดือนกว่า เสียเวลาเยอะเลย เสียโอกาสเยอะ นี่ถ้ายังทำงานอยู่ 2 เดือนกว่า ก็ไม่ต้องมาแจกของแล้ว เพราะเราบริหารจัดการไว้ได้มากพอสมควร ไม่เป็นไรยังไงก็ยังทันอยู่ เราก็จะมาช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวขอบคุณพ่อแม่พี่น้องอีกครั้งที่มีความอดทน บางทีมีท่วม เราก็พยายามสูบ พยายามผันออกไปให้ได้มากที่สุด ได้รับรายงานว่าปีนี้ จากการที่เราได้ทำมา 2 ปี กว่า ก็ค่อนข้างจะดีขึ้นเรื่อยๆ พักไป 2 เดือน ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะทำอย่างเต็มที่ ให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด และมีความป้องกันเพิ่มมากขึ้น
วันนี้มีถุงยังชีพ ถือว่าเป็นของติดไม้ติดมือ แต่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องทำต่อ ดำเนินการให้เต็มที่ ประกาศเป็นเขตประสบภัยแล้ว จะรีบจัดเงินชดเชยมาให้เป็นรายหลังคาเรือน เมื่อตนเข้าไปบริหารอย่างเต็มตัว
นายอนุทินได้ถามชาวบ้านว่า มี 5,000 7,000 9,000 เอาเท่าไหร่ ทำให้ได้รับเสียงหัวเราะ ก่อนจะกล่าวต่อว่า เราจะจัดสรรให้อย่างมีเหตุมีผลที่สุด เงินเราก็ต้องใช้อย่างระมัดระวัง วินัยทางการเงินต้องมี เดี๋ยวจะรีบจัดคนละครึ่ง 60-40 มาให้พี่น้องด้วย อันนี้เป็นนโยบายที่ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เร่งดำเนินการให้เสร็จ ภายใน 1-2 เดือนนี้ โดยเร็วที่สุด
ครม. ชุดตนเองได้รับแจ้งว่าจะเข้าถวายสัตย์ในวันที่ 24 กันยายนนี้ จากนั้น ก็จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ พวกเราทุกคนก็จะเร่งดำเนินการ เวลาเราไม่มีแล้ว เราเข้าไปปุ๊บ ก็ทำงานเลย นี่ก็ทำงานเต็มตัวไว้ก่อนแล้ว พอเข้าไปเรียกประชุม ก็ขับเคลื่อนได้เลย ทุกอย่างที่เราจะทำให้ได้ เราจะทำ ไม่ได้ทำเป็นกลุ่มๆ แต่ทำแล้วทุกคนต้องได้ประโยชน์ ขอให้ทุกคนโชคดี มีสุขภาพแข็งแรง ระบบสาธารณสุขก็จะต้องดี เราทีมเดียวกันหมด อะไรที่ถูกเอากลับไป
“เรื่องฟอกไตที่เคยฟรี ก็ไม่ฟรี ไม่รู้ทำงานกันยังไง ต้องกลับมาฟรีอีกครั้งหนึ่ง เพราะความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งที่เราจะให้เกิดขึ้นไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ จะได้ไม่เป็นภาระของคนอื่นด้วย สิ่งที่ดีที่สุดคือ เราต้องมีสุขภาพที่ดี แข็งแรงกันให้มากๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ยืดเส้นยืดสาย และเราจะมาพบกันเป็นประจำ เพราะว่าที่นี่คือที่ที่มีพระคุณกับผม” นายอนุทินกล่าว
จากนั้น ได้มอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่มารอรับ 145 ชุด และลงเรือ ณ ท่าเรือศูนย์สภากาชาดไทยเวชพาหน์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย