“ไอซ์ รักชนก” ฟาดกลับเพื่อไทย ดาหน้าวิจารณ์พรรคประชาชน เรื่อง ครม.อนุทิน ชี้แดกดันกันจังเรื่อง “สุชาติ” ทำยังกับรัฐบาลเพื่อไทยไม่เคยมี รมต.ชื่อนี้มาก่อน บอกแทนที่จะเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ก็ขออวยพรให้แข็งแรง ฝีปากดีและมีชีวิตยืนยาวไปเรื่อยๆ เหน็บทิ้งท้ายตอนมีอำนาจก็หักหลังประชาชน
วันที่ 19 กันยายน 2568 น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่คนพรรคเพื่อไทยออกมาวิจารณ์พรรคประชาชนหลังยกมือโหวตให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ค่อนข้างจะสับสนและงุนงงเป็นอย่างมาก ที่บรรดาคนของพรรคเพื่อไทย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ต่อว่าด่าทอคุณสมบัติของรัฐมนตรีหลายคนใน ครม. ชุดนี้ ทั้งยังชี้นิ้วว่าเป็นความผิดของพรรคประชาชน ที่ทำให้ได้ ครม. หน้าตาแบบนี้
แน่นอนว่าพรรคประชาชนเราตัดสินใจฝ่าทางตันของประเทศด้วยการเลือกนายอนุทิน ให้เป็นนายกฯ ที่ต้องทำภารกิจที่ตกลงร่วมกัน คือ ยุบสภาภายใน 4 เดือน และ ริเริ่มการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ แต่นายกฯ คือคนที่เลือกคณะรัฐมนตรี ซึ่งเราจะต้องตรวจสอบกันอย่างไม่ลดราวาศอกแน่นอน
แต่พรรคเพื่อไทยวิพากษ์วิจารณ์ ครม. ชุดนี้เสมือนหนึ่งว่า ไม่เคยร่วมรัฐบาลกันมา 2 ปีเต็ม คนหน้าเดิมๆที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่ไปได้ทุก ครม. กว่าสิบคนก็ล้วนเคยกอดคอกันร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยมาก่อน ซึ่งเกือบสองปีแรก ก็ไม่เห็นใครในพรรคเพื่อไทยออกมาร้องแรกแหกกระเชอ ว่ารัฐมนตรีคุณสมบัติมีปัญหา คนนั้นไม่ดีคนนี้คอร์รัปชัน แต่วันนี้กลับมาก่นด่าเอากับพรรคประชาชน จนอาจจะลืมข้อเท็จจริงไปว่า ถ้าหากวันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ตัวเองก็คงต้องใช้บริการคนที่ตัวเองกำลังชี้นิ้วด่าอยู่เนี่ยแหละ
“แดกดันกันจังเรื่องนายสุชาติทำอย่างกับว่า ครม. พรรคเพื่อไทยไม่เคยมีชื่อนี้เป็นรัฐมนตรีมาก่อน ถ้าพรรคประชาชนเราต้องรับผิดชอบสี่ เดือนต่อจากนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะตรวจสอบอย่างถึงรากเหมือนที่เคยทำมา แล้วพรรคเพื่อไทยไม่ส่องกระจกดูตนเองบ้างหรือว่า 2 ปีที่ผ่านมาเป็น 2 ปีที่สูญเปล่า”
...
น.ส.รักชนก กล่าวต่อว่าแทนที่จะตั้งใจทำงานเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ตั้งหน้าใช้เวลา 4 เดือนที่เหลือดันกฎหมายออกมาให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่กลับดาหน้ากันออกมาโจมตีพรรคประชาชนทุกวัน ล่าสุดชี้นิ้วว่าเราเป็นพรรคเด็กน้อย ประทานโทษทีเถอะ ดิฉันก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมถึงต้องเอาเรื่องความอาวุโสมาลดทอนกัน เพราะคนสูงอายุในพรรคเพื่อไทยจำนวนมากอยู่มาจนป่านนี้ เห็นกันแล้วว่าหลายคนที่ตำแหน่งสูงส่ง กลับไม่เคยได้นำส่งอะไรที่เป็นประโยชน์ให้ประเทศนี้ได้เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ได้ยศได้ตำแหน่งไปแจกกันแล้วก็ดีใจเหมือนลิงได้แก้ว แต่ไม่มีปัญญาจะเอาอำนาจไปใช้เพื่อทำให้ประเทศชาติดีขึ้น อยู่ในอำนาจกันมาอย่างยาวนาน แต่มีปัญญาพาประเทศมาได้แค่นี้ ท่านก็ยังมีหน้า กล้าจะดูถูกคนที่อายุน้อยกว่า ลองเทียบงานฝ่ายนิติบัญญัติกันแล้วท่านไม่อายบ้างหรือ
“ดิฉันเคารพเป็นอย่างยิ่ง ผู้อาวุโสที่มากประสบการณ์และสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ไว้ให้กับประเทศนี้ แต่ผู้อาวุโสที่วัน ๆ ดีแต่น้ำลายแตกฟอง หาแต่ทางเข้าสู่อำนาจ แต่พอได้ไปแล้วก็ไม่มีปัญญาจะใช้ให้เกิดประโยชน์ คำพูดที่ท่านใช้วิจารณ์ด้อยค่าคนอื่น ก็ไร้ค่าไร้ราคาพอๆกับตัวตนจริงๆของพวกท่าน
อย่างไรเสีย ดิฉันก็ขออวยพรให้แข็งแรง ฝีปากดีและมีชีวิตยืนยาวไปเรื่อยๆ เพื่อวันหนึ่งจะได้นั่งมองดูคนที่ท่านดูถูกดูแคลนพาประเทศไปสู่ทางออกและอนาคต เผื่อวันหนึ่งในอนาคตจะย้อนมองตัวเองแล้วคิดได้ ว่าวันที่มีอำนาจกลับหักหลังประชาชน อยู่ในอำนาจไปวัน ๆ อย่างไร้เจตจำนงและความกล้าหาญ เผื่ออยู่ไปนาน ๆ แล้วในอนาคตจะสำนึกได้”