“จิรายุ” เย้ยรัฐมนตรี “เต้าหู้ยี้” พบประวัติรัฐมนตรี หลายคนไม่ “ขาว” แฉบางคนกรอกข้อมูลแต่งตั้งเท็จ เรียกร้อง สลค. เปิดเผย หากเฉยจะใช้พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร
วันที่ 19 ก.ย. 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐมนตรีของรัฐบาล “หนู1” หลายคนมีพฤติการณ์ต้องสงสัยว่าทุจริตในอดีตมีเรื่องร้องเรียน มีคดีในองค์กรอิสระ จำนวนมาก บางคนถูกชี้มูลความผิดโดย ปปช. บางคนเป็นอดีตข้าราชการเก่าที่มีคดีความทั้งส่วนของDSI ของตำรวจและองค์กรอิสระ
ซัดปชน. ดิวปีศาจ
นอกจากนี้ยังพบ บางคน มีสำนักข่าวขุดคุ้ยพฤติกรรม ว่ามีการเชื่อมโยงกับการฟอกเงิน มีเงินนอกระบบโอนไปสู่บัญชีของตนเองจำนวนมาก และพบเส้นทางการเงิน โอนต่อไปดูแล สส.หลายคน ซึ่งมีพยานหลักฐานครบถ้วน ซึ่งเรื่องนี้ ทั้งสื่อมวลชน และพรรคเพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้านจะตรวจสอบ และดำเนินคดีอย่างเต็มที่ กับรัฐบาลเต้าหู้ยี้อย่างแน่นอน
“พรรคประชาชนที่วัยรุ่นคาดหวังไว้จะต้องรับผิดชอบในการโหวต เพราะดูจาก 1 เดือนที่ผ่านมาเริ่มเห็นได้ชัดแล้วว่ามีการ“ดิวปีศาจ” น้ำเงิน+ส้ม กันมาตั้งแต่ต้น MOA ก็แค่พิธีกรรมใช่หรือไม่
เรียกร้อง สลค.เปิดข้อมูล รมต.
นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า ต่อจากนี้ พรรคเพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้าน ขอให้ สลค.เปิดเผยข้อมูลใบกรอกประวัติการแต่งตั้ง หากเพิกเฉย จะใช้พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ให้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เปิดเผยเอกสารในการกรอกประวัติเพื่อเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี ว่า ได้กรอกประวัติครบถ้วน มีท่าน รมต.กรอกความเท็จไว้กี่ข้อ หากตอบคำถามทั้ง 14 ข้อ ว่า“ไม่เคย”ทุกข้อ เหมือนกับการเสนอชื่อข้าราชการการเมือง ซึ่งการเป็นรัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติ และซื่อสัตย์ มีจริยธรรม เป็นที่ประจักษ์มากกว่าข้าราชการการเมืองทั่วไป ก็จะนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลความจริง เช่น เคยมีเรื่องร้องเรียน มีคดีความหรือคดีอยู่ระหว่างการดำเนินการ ก็จะเห็นได้ทันทีว่ารัฐมนตรีคนไหนโกหกกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จไว้บ้าง ก็จะดำเนินการเพื่อถอดถอนและเอาผิดต่อไป
...
เย้ยตั้งรมต.เต้าหู้ยี้
“รัฐบาล 4 เดือน ที่พรรคประชาชน กล้าโหวตเป็นนั่งร้านให้นี้ ไม่มีจริง เพราะหากมีจริงต้องสวยงามกว่านี้ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ “รมต.เต้าหู้ยี้” ต่างตอบแทนมาเป็นรัฐมนตรี เมื่อพรรคประชาชน โหวตเป็น “นั่งร้าน” ย่อมต้องรับผิดชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้น นับจากนี้ “ดิวปีศาจ” หรือ “ดิวลับ” ที่เกิดขึ้น จะเป็นการหักศรัทธาของคนรุ่นใหม่ที่ไม่น่าไว้วางใจอีกต่อไป” นายจิรายุ กล่าว