"ศาลฎีกา" นัดฟังคำพิพากษาคดี "ม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" บุกช่อง NBT ปี 2551 ขณะที่ "เจ๊ปอง" เผยเตรียมตัวเตรียมใจเตรียมร่างกายมาพร้อม
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ก.ย. 2568 ที่ห้องพิจารณา 608 ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) บุกช่อง NBT คดีหมายเลขดำ อ.1033/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำ พธม.(เสียชีวิต), น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที แนวร่วม พธม. และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล น้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ ซ่องโจร เป็นหัวหน้าสั่งการ บุกรุกสถานที่ราชการทำให้เสียทรัพย์
...
กรณีเมื่อปี 2551 จำเลยกับพวกที่ศาลพิพากษาลงโทษไปแล้วได้ร่วมกันบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ในช่วงการชุมนุมของ พธม. เพื่อขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช
สำหรับคดีนี้ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุกจำเลยคนละ 1 ปีโดยไม่รอลงอาญา จำเลยทั้งสี่ยื่นฎีกา และได้รับการประกันตัวคนละ 2 แสนบาท
ทั้งนี้ ก่อนอ่านคำพิพากษามีมวลชนมารอให้กำลังใจ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก หนึ่งในจำเลยกลุ่ม พธม. โดย น.ส.อัญชะลี ยิ้มแย้มยกมือสวัสดีทักทาย พร้อมเผยว่า ในการต่อสู้ชั้นศาลฎีกาตนยื่นเอกสารน้อยมาก เพื่อรับว่าได้ไปบุกรุกจริงตามที่ฟ้อง แต่ไม่ได้ขอให้ศาลฎีกาลงโทษสถานเบาหรือรอลงอาญาแต่อย่างใด อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลฎีกาว่าจะมีความเห็นอย่างไร ตนเตรียมตัวเตรียมใจ เตรียมร่างกายมาพร้อมไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร ในวันที่บุก NBT ได้ยืนยันกับศาลว่า เพราะมีความจำเป็นจริงๆ และในวันนั้นก็ทราบดีว่า อาจจะทำให้ตนมีวันนี้ แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปก็จะต่อสู้เหมือนเดิม.