ท่ามกลางสายน้ำที่เชี่ยวกราก และไหลหลากมาทุกทิศทุกทาง คนไทยอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ แทบจะตั้งรับไม่ทัน ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจปากท้อง หรือแม้แต่ข้อพิพาทชายแดนไทย-เขมร ที่ดูกี่ครั้ง ประเทศไทยก็ช้าและล้าหลังกว่าเขาไปทุก ๆ ก้าว อย่างไม่น่าเชื่อ!
นโปเลียน โบนาปาร์ต เคยกล่าวไว้ว่า หากคุณสร้างกองทัพที่มีสิงโต 100 ตัว แต่หัวหน้าของพวกมันเป็นสุนัข ในทุก ๆ การต่อสู้ สิงโตจะตายเหมือนสุนัข…
แต่ถ้าคุณสร้างกองทัพที่มีสุนัข 100 ตัว และหัวหน้าของมันคือ สิงโต สุนัขทุกตัวจะต่อสู้อย่างสิงโต…
การเมืองการปกครองก็ดูจะไม่แตกต่างกันกับการรบของนโปเลียนสักเท่าไร
การต่อสู้ซึ่งจบลงด้วยการที่ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เดินเข้าเรือนจำคลองเปรม ด้วยการยอมรับเงื่อนไขของฝ่ายแค้น ที่ต้องการให้เขากลับประเทศด้วยการติดคุก 1 ปีนั้น ถือเป็นความกล้าหาญที่ยากจะหาได้จากบุคคลใด
ว่าแต่เมื่อไม่มีอดีตนายกฯ ทักษิณ อยู่บนกระดานการเมืองแล้ว มุมมอง และภาพสะท้อนทางการเมืองของประเทศไทยอาจเปลี่ยนไป และอาจจะมีความชัดเจนมากขึ้นด้วยซ้ำ
วีระ สมความคิด นักต่อสู้ทางการเมือง เคยกล่าวไว้ว่า บางที “ปีศาจ” อาจไม่ใช่ “ทักษิณ” แต่ปัญหาประเทศอยู่สูงกว่าที่เราคาดคิด ดังนั้น ฉากต่อไปที่คนไทยจะได้เห็น จึงอาจเป็นอะไรก็ได้ โดยเฉพาะเมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของ “คุณหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ที่เรียกขานกันว่า ครม. คนละครึ่ง…
ครึ่งหนึ่งเป็นคนนอกที่มีความรู้ความสามารถ ส่วนอีกครึ่งเป็นคนจากพรรคร่วมรัฐบาลที่ใส่เข้ามา เต็ม ๆ โดยไม่ต้องเกรงใจใคร ทั้งจากพรรคภูมิใจไทย และพรรคกล้าธรรม (ดูจากรายชื่อ ครม. ที่ทูลเกล้าฯ)
...
ครม.ทั้ง 36 คน จะผ่านกระบวนการต่าง ๆ ก่อนเข้าทำงานจริงภายใต้ความกดดันหลายด้าน แต่ไม่ว่าใครจะมา พวกเขาคงเหนื่อยเอาการ!
ซ้ำร้ายความเหนื่อยยากที่ต้องเจอ ยังอาจขวางกั้นรัฐบาลจนยื่นมือไปไม่ถึงการแก้ไขปัญหาประเทศในระยะเวลาเพียง 4 - 7 เดือนข้างหน้าด้วยซ้ำ
แค่ฉากแรกที่พวกเขาต้องเจอก็คือ การถูกพรรคเพื่อไทยยื่นคำร้องขอถอดถอน อนุทิน จากนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติ และความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จากข้อที่ถูกกล่าวหาว่า พัวพันในคดีฮั้ว สว. และที่ดินในสนามกอล์ฟชาญวี รวมถึงที่ดินเขากระโดง
นอกจากนี้ การทำ MOA ระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับ พรรคประชาชน เพื่อวัตถุประสงค์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ยังขัดต่อกฎหมายทำให้ไม่สามารถให้ประชาชนจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ได้ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา
พรรคเพื่อไทยยังเตรียมยื่นสอยพรรคประชาชนในคดีเดิมเรื่องการนำเสนอขอแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 112 เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทยในมูลความผิดเกี่ยวกับคดีฮั้ว สว.สีน้ำเงิน และที่ดินเขากระโดงซึ่งเป็นที่ดินพระราชทานให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อค่ำวันที่ 17 ก.ย.68 กรมที่ดินได้ออกจดหมายข่าวยืนยันคำสั่งเดิมให้ยุติการเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดงว่า ไม่พบหลักฐานชัดเจนว่า ที่ดินเป็นของการรถไฟฯ และการออกโฉนดชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ทั้งยังตอกหมุดปิดฝาโลงด้วยว่า กรมที่ดิน ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของ อดีต รมช.มหาดไทย เดชอิศม์ ขาวทอง ที่ให้ทบทวนคำสั่งยุติเรื่อง โดยเห็นว่าทุกฝ่ายควรรอผลคำพิพากษาของศาลปกครองในคดีใหม่ที่การรถไฟฯได้ยื่นฟ้องแล้ว!!
ทีนี้ พอจะเห็นเค้าลางแห่งความจริงบางประการหรือยัง?!
กระบองเพชร