สส.พรรคประชาชน อยุธยา พาชาวบ้าน ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ เสนอ 4 มาตรการแก้น้ำท่วมเฉพาะหน้า หลังประชาชนเดือดร้อนกว่า 20,000 ครัวเรือน  จากการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา


วันที่ 17 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 พร้อมประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภาเกี่ยวกับความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยขอให้ประธานสภาฯ พิจารณาข้อเสนอแนะเพื่อส่งถึงกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร และส่งข้อเสนอนี้ไปยังรัฐบาล คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 


โดยนายทวิวงศ์ กล่าวว่า เนื่องจากในวันที่ 17 กันยายน 2568 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน มีการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 2,100 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำในภาคกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำหรือพื้นที่นอกคันกั้นน้ำตามเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย รวมถึงลำคลองสาขาในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีบ้านเรือนและชุมชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยมากกว่า 20,000 ครัวเรือน

...


จึงขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งข้อเรียกร้องและข้อเสนอมาตรการแก้ปัญหาอุทกภัยเฉพาะหน้าไปถึงรัฐบาลดังต่อไปนี้

1. ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิจารณาเร่งประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อให้สามารถนำงบประมาณว่าด้วยเงินทดรองราชการ มาดำเนินการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย โดยด่วนที่สุด

2. ขอเสนอให้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน พิจารณาเร่ง “มาตรการระบายน้ำเข้าสู่ทุ่งรับน้ำ” ที่มีการดำเนินการเก็บเกี่ยวผลผลิตทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างเช่น ทุ่งป่าโมก ทุ่งผักไห่ ทุ่งบางบาล-บ้านแพน และทุ่งฝั่งซ้าย คลองชัยนาท - ป่าสัก เพื่อช่วยลดระดับน้ำ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่    

3. ขอให้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน พร้อมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งหมด เร่งจัดเก็บผักตบชวา และกำจัดวัชพืชภายในคลองชลประทานภายในพื้นที่ทุ่งรับน้ำเจ้าเจ็ด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองชลประทาน ให้สามารถเพิ่มการระบายน้ำจากจุดที่เป็น “คอขวด” ลงสู่คลองพระยาบรรลือ ซึ่งเป็นเส้นทางระบายน้ำหลักออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในลำดับต่อไป

4. ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งจัดทำ “แผนการส่งน้ำเพื่อการเกษตร” เพื่อให้สามารถจัดสรรน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานในเวลาที่เหมาะสมกับฤดูกาลเพาะปลูก พร้อมทั้งเสนอให้จัดทำมาตรการสนับสนุนและอุดหนุนการจัดหารถบีบอัดฟางหรือรถไถตอซังข้าว เพื่อเตรียมมาตรการรองรับนโยบายการห้ามเผานาให้กับเกษตรกร ซึ่งจะส่งผลให้ในช่วงฤดูมรสุมหรือฤดูน้ำหลากของทุกปี จะสามารถเตรียมพื้นที่ทุ่งนาให้สามารถปรับเปลี่ยนกลายเป็น “ทุ่งรับน้ำ” ได้ทันในเวลาที่เหมาะสม