“อลงกต วรกี” เผย กมธ.ติดตามงบฯ เล็งสอบงบประมาณซอฟต์พาวเวอร์ ไล่เส้นทางล็อกสเปกให้คนใกล้ชิดได้งาน-ความคุ้มค่าการใช้งบฯ เผยคนชายแดนแนะข้อเสนอให้รัฐบาลกัมพูชาชดใช้ค่าเสียหายให้ไทย แลกเปิดด่าน
วันที่ 14 กันยายน 2568 นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา กล่าวว่า ในการประชุม กมธ.ติดตามการบริหารงบประมาณ วันที่ 15 กันยายน 2568 เวลา 14.00 น. ที่ประชุมจะหารือถึงการตรวจสอบการใช้งบประมาณโครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ 5,000 ล้านบาท ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามที่มีการตั้งข้อสงสัยถึงการใช้งบประมาณว่ามีความคุ้มค่า เกิดประโยชน์มากน้อยเพียงใด หรือมีการรั่วไหลหรือไม่
โดยเฉพาะกรณีการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการอีเวนต์ต่างๆ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตมีการล็อกสเปกให้บุคคลใกล้ชิดได้งาน ได้ดำเนินการประมูลถูกต้องตามระเบียบราชการหรือไม่ รวมทั้งจะพิจารณาดูความคุ้มค่าในแต่ละโครงการว่ามีการใช้งบประมาณเกิดประโยชน์เพียงใด ดำเนินการแล้วสามารถนำไปต่อยอดเป็นซอฟต์พาวเวอร์สร้างรายได้เข้าประเทศได้จริงหรือไม่ การประชุม กมธ.ในวันดังกล่าวจะพิจารณาเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติมาให้ข้อมูลกับ กมธ. ต่อไป
ขณะเดียวกัน นายอลงกต กล่าวต่อไปถึงข้อเสนอการพิจารณาเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ในฐานะประธาน กมธ.ติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา ได้ลงพื้นที่ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไปติดตามเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา พบว่ามีการเบิกจ่ายงบประมาณถูกต้อง ครบถ้วน แต่เงินเยียวยาที่ได้รับอาจได้ไม่ตรงกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ได้สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ถึงการเปิดด่านไทย-กัมพูชา คนในพื้นที่ให้ข้อเสนอว่า ถ้าจะให้เปิดด่านจริง จะต้องให้รัฐบาลกัมพูชาชดใช้ค่าเสียหายแก่คนไทยที่เกิดความเสียหายตามแนวชายแดนก่อน ทั้งกรณีเสียชีวิต บาดเจ็บ พิการ บ้านเรือนและสัตว์เลี้ยงที่เสียหาย ต้องได้รับการชดใช้จากกัมพูชาให้ครบถ้วน ตามความเสียหายจริงที่เกิดขึ้น
...
ส่วนข้อเสนอให้ทหารกัมพูชาร่วมเก็บกู้วัตถุระเบิดกับไทยนั้น เชื่อว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แม้กัมพูชาจะตอบตกลงร่วมเก็บกู้ระเบิด แต่คงเป็นลักษณะต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างเก็บกู้ ไม่ได้ไปเก็บกู้ร่วมกับไทย แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่ากัมพูชาจะไม่ไปวางกับระเบิดเพิ่มเติม ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าควรให้รัฐบาลกัมพูชาจ่ายค่าชดเชยการเก็บกู้วัตถุระเบิดให้รัฐบาลไทย ดีกว่าให้มาเก็บกู้วัตถุระเบิดร่วมกัน.