เปิดประวัติ “ไผ่ ลิกค์” หรือ ไผ่ วันพอยท์ สส.พรรคกล้าธรรม หลังมีชื่อติดโผ “ครม.อนุทิน 1” ลุ้นเป็นรัฐมนตรีป้ายแดงอีกคน


วันที่ 6 กันยายน 2568 ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 มีมติเห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตจากพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ชนะนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับคะแนนไป 152 เสียง ภายใต้เงื่อนไขยุบสภาภายใน 4 เดือน ขั้นตอนจากนั้นคือประธานสภาฯ นำชื่อนายอนุทิน ขึ้นทูลเกล้าฯ และรอการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งในระหว่างนี้ นายอนุทิน เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำภายใต้ สส. 146 เสียง โดยล่าสุดตัว นายอนุทิน ก็ยืนยันแล้วว่าโผ ครม. นั้น 100% แล้ว แต่ขอเปิดเผยในเวลาที่เหมาะสม

สำหรับโผ ครม.อนุทิน 1 พบว่าหนึ่งในผู้ที่เป็นกระแสที่อาจจะได้เป็นรัฐมนตรีป้ายแดงอีกคนมีชื่อของ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรคกล้าธรรม ลูกหม้อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ที่แทบจะเรียกได้ว่าเห็น ร.อ.ธรรมนัส ที่ไหน เห็นไผ่ ลิกค์ ที่นั่น การมีชื่อที่อาจจะได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลใหม่นี้จึงเป็นที่น่าจับตา เพราะก่อนหน้านี้นายไผ่ เคยมีข่าวว่าส่งชื่อตรวจคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ได้ร่วมใน ครม.นายเศรษฐา ทวีสิน และ ครม.แพทองธาร ชินวัตร การมีชื่อครั้งนี้จึงน่าลุ้น

...

ประวัติ “ไผ่ ลิกค์”

ในส่วนของประวัติ นายไผ่ ลิกค์ เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2521 อายุ 47 ปี (ณ ปี 2568) เป็นบุตรชายของ นายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงและสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กับนางปราณี ลิกค์ มีน้องชายคือ นายภูผา ลิกค์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จบปริญญาตรีนิเทศศาสตรบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม หลังเรียนจบสานต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว ต่อมาขยายธุรกิจมายังแวดวงรถยนต์และเต็นท์รถมือสอง ส่วนที่หลายคนรู้จักในชื่อ ไผ่ วันพอยท์ ที่มีมาจากทีมวันพอยท์ ที่นายไผ่ เป็นนักแข่งเข้าร่วมแข่งขันอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตหลายรายการ จึงเป็นที่มาของฉายา ไผ่ วันพอยท์

เส้นทางการเมือง ลุ้นเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง

นายไผ่ ลิกค์ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกสังกัดพรรคพลังประชาชน เมื่อปี 2550 ภายหลังจากที่บิดาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองพร้อมกับกลุ่มบ้านเลขที่ 111 แต่ขณะนั้นไม่ได้รับการเลือกตั้ง ต่อมาปี 2554 ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยและได้รับการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก และยังดำรงตำแหน่งโฆษกคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ด้วย ต่อมานายไผ่ ย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ เมื่อปลายปี 2561 และได้รับการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ในปี 2562 และยังได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ

กระทั่งปี 2565 นายไผ่ และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐจำนวนหนึ่งในนามกลุ่มธรรมนัส ย้ายไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย แต่ในปี 2566 กลุ่มดังกล่าวก็ย้ายกลับมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง และลงสมัครรับเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 ในปีเดียวกันนี้ มีกระแสข่าวว่า นายไผ่ ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แต่ใน ครม.เศรษฐา 1 กลับไม่ปรากฏชื่อ โดยในปี 2567 การปรับ ครม.เศรษฐา 2 นายไผ่ ก็ได้รับการเสนอชื่อในตำแหน่งเดิม แต่เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดปัญหา นายไผ่ จึงตัดสินใจไม่รับตำแหน่ง โดยเป็น นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แทน อีกทั้งในปี 2568 ภายใต้รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ก็มีชื่อนายไผ่ ติดโผเป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่ในที่สุดก็ยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรี

คงต้องลุ้นหน้าตา ครม.อนุทิน 1 ที่กำลังจะคลอดออกมาในเร็วๆ นี้ว่าจะประกอบด้วยใครบ้างในตำแหน่งรัฐมนตรีของคณะรัฐบาล และนายไผ่ จะได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้หรือไม่ ซึ่งพรรคกล้าธรรมได้โควตารัฐมนตรีราว 7-8 เก้าอี้ โดยรัฐบาลเฉาะกิจนี้ที่จะเข้ามาปฏิบัติงานภายใต้เงื่อนไข 5 ข้อของพรรคประชาชนที่โหวตหนุน นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ต้องยุบสภาภายใน 4 เดือนหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งนายอนุทิน เป็นตัวแทนพรรคร่วมลงนามในข้อตกลงต่อหน้าสาธารณะ โดยนายอนุทิน ก็ประกาศว่าหลังจากเข้าฝเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก็จะนำ ครม. ทำงานโดยทันที