5 ก.ย. 68 โหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ลุ้นผู้นำรัฐบาลคนใหม่ “อนุทิน-ชัยเกษม” ใต้เงื่อนไขยุบสภา หากได้รับความเห็นชอบ จะทำได้จริงอย่างที่รับปากหรือไม่


วันที่ 5 กันยายน 2568 ถือเป็นอีกวันสำคัญและจะเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทยอีกครั้ง ที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ จะมีการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของไทย และกำลังถูกมองไปถึงเสถียรภาพการเมืองของไทยด้วย

ทั้งนี้ ในระยะเวลา 2 ปีเศษของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีไปแล้ว 2 คน และถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีทั้งคู่ คือ นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ทำให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มีอยู่ 3 คนของพรรคเพื่อไทย เหลือเพียงคนสุดท้ายคือ นายชัยเกษม นิติสิริ

แม้รัฐบาลรักษาการที่ขณะนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี จะยอมรับว่าหนังสือทูลเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร ที่ส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรีว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ ทำให้เพื่อไทยต้องสู้ต่อด้วยข้อเสนอสุดท้ายคือส่ง นายชัยเกษม ชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี พร้อมกับที่ นายชัยเกษม แถลงด้วยตัวเองในวันที่ 4 กันยายน 2568 ว่าเมื่อได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะยุบสภาทันทีไม่ต้องรอ 4 เดือน พร้อมยอมรับทุกข้อเสนอของพรรคประชาชนแบบไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเพื่อสู้กับคู่แข่ง

...

ทางด้านผู้ชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกคนที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวของพรรคภูมิใจไทย ที่คล้ายว่าคราวนี้จะมีแต้มต่อด้วยเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน 143 เสียง และเสียงที่พรรคภูมิใจไทยรวบรวมกับพรรคร่วมและ สส. ที่จะมาลงมติให้รวม 146 เสียง ภายใต้ข้อตกลง 5 เงื่อนไข โดยต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน หลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยมีพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้านเสียงข้างมาก

ทั้งนี้ ประชาชนคนไทยต่างจับตาดูว่าประเทศไทยจะได้ใครเป็นผู้นำรัฐบาลคนใหม่ในช่วงเวลานี้ระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หรือ นายชัยเกษม นิติสิริ ที่จะเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ประเทศในช่วงที่มีหลายวิกฤติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าจะมาถึง ส่วนจะทำได้จริงตามที่รับปากกันหรือไม่ คงต้องให้นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 พร้อม ครม.ชุดใหม่ เป็นผู้พิสูจน์.