"สุรทิน" ยืนยันไม่มีใบสั่ง แจ้งความ ม.112 "ภูมิธรรม" ชี้เป็นการทำหน้าที่พสกนิกร ที่จงรักภักดีสถาบัน สวนกลับเป็นภาษาอีสาน "ไผสิกล้ามาสั่งสหายไทย"

วันที่ 4 ก.ย. 2568 นายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการไปแจ้งความ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามมาตรา 112 จากการยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาฯ ที่ ออกมาบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ว่า ตนเป็นพสกนิกรรักสถาบันฯ ซึ่งเห็นว่าสิ่งที่นายภูมิธรรมทำ ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทในฐานะพสกนิกรจึงต้องปกป้องสถาบันฯ ความคิดมีแค่นั้น เพราะเทิดทูนสถาบันเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมอยู่แล้ว

...

อีกทั้ง ตนคิดว่านายภูมิธรรม ไม่มีอำนาจในการยุบสภาฯ เพราะกฤษฎีกาก็แนะนำอยู่แล้วว่าไม่สามารถยื่นได้ ก็ยังฝ่าฝืนจะยื่น ซึ่งเราก็ต้องปกป้องสถาบัน เพราะเรารักสถาบัน

ส่วนจะกังวลหรือไม่ ว่าพรรคประชาชนจะไม่ยกมือโหวตให้กับ นายอนุทิน เนื่องจากเป็นการแจ้งความ ม.112 นายสุรทิน กล่าวว่า ไม่ได้กังวลพรรคประชาธิปไตยใหม่พร้อมทุกอย่าง รวมถึงการไปยื่นในครั้งนี้ตนเองก็ไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ พร้อมตอบเป็นภาษาอีสานว่า “บ่ได้ออนซอนใครไปเลย” ซึ่งเรื่องการยกมือโหวตเป็นเรื่องของพรรคร่วมฯ และนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่าการเดินทางไปแจ้งความนั้น เป็นเพราะเป็นพสกนิกรจงรักภักดีต่อสถาบัน ไม่ได้มีประเด็นอื่นส่วนใครจะมองอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัว และไม่เกี่ยวกับความรู้สึกของตนเอง

ทั้งนี้ หลังจากที่ตนไปแจ้งความตำรวจก็ประชุมกันชุดใหญ่ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ม.112 ซึ่งก็ดำเนินการตามหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และเจ้าหน้าที่ก็มีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากเจ้าตัวก็มีการแถลงว่าจะยุบสภาฯ

เมื่อถามอีกว่า การไปแจ้งความในครั้งนี้มีใบสั่งหรือไม่ นายสุรทิน ตอบเป็นภาษาอีสานว่า “ไผสิมาสั่งสหายไทย มีแต่คอมมิวนิสต์ด้วยกัน ใครจะบังอาจมาสั่ง”

ส่วนที่มีการตีกลับ พ.ร.ฎ.ยุบสภา นั้น นายสุรทิน กล่าวว่า พอเราแจ้งความเสร็จ เราประเมินว่าไม่น่าถูกต้อง ซึ่งเรายึดกฤษฎีกาเป็นหลัก เพราะเป็นที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล.