“จิราพร” เมินงูเห่าเพื่อไทย มั่นใจพรรคยืนหยัดอยู่ได้ จัดตั้งรัฐบาลไม่ปิดกั้นคุยได้ทุกพรรค หากรวมเสียงข้างมากไม่ได้ พร้อมเป็นฝ่ายค้าน


เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 30 ส.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี สส. พรรคพท. บางส่วนเปิดตัวร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า หากดูประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ผ่านมา เมื่อมีความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก็จะมี สส. พรรคบางคนเปลี่ยนอุดมการณ์ย้ายไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องปกติ เป็นเอกสิทธิ์ เพียงแต่การจะอยู่หรือจะไปไม่ได้เปลี่ยนอุดมการณ์ของพรรคพท. หรือเปลี่ยนแปลงตัวตนของพรรคพท.ได้ เรายังคงเดินหน้าทำงานรับใช้ประชาชน

ให้รอดูงูเห่าเพิ่มหรือไม่

เมื่อถามว่า เมื่อมีภาพปรากฏว่ามีงูเห่าในพรรคพท. จะส่งผลต่อภาพลักษณ์พรรคหรือจะมี ส.ส. งูเห่าเพิ่มเติมหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า ต้องติดตามสถานการณ์ เพราะเป็นความเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาซึ่งทุกคนก็น้อมรับคำวินิจฉัย แล้วต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ส่วนจะมีงูเห่าเพิ่มหรือไม่ก็ต้องรอดูและติดตาม

ลั่นยืนหยัดอยู่ได้

น.ส.จิราพร กล่าวว่า อย่างที่เรียนว่าไม่ว่าจะมีใครมาหรือไป จากพรรคเพื่อไทย เราก็ยังคือพรรคที่ส่งต่ออุดมการณ์มาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย (ทรท.) พรรคพลังประชาชน (พปช.) และพรรคเพื่อไทย อย่าว่าแต่งูเห่าเลยเราถูกยุบพรรคมาแล้ว ก็ยังยืนหยัด และเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับฟังเสียงจากประชาชนจนอยู่ได้ถึงทุกวันนี้

ไม่ปิดกั้นพร้อมคุยทุกพรรค

น.ส.จิราพร ยังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวแกนนำพรรคพท. ไปพูดคุยกับแกนนำพรรคประชาชน (ปชน.) ในการดีลจัดตั้งรัฐบาล ว่า รอติดตามข่าว อย่างที่เรียนพรรคพท. ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เราได้รับการยอมรับจากประชาชน แต่เสียงยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่สามารถเป็นพรรคเดียวในการจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงต้องได้รับความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาล ถ้ามีอุดมการณ์ที่ตรงกัน นโยบายที่ตรงกัน ยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ เราก็ไม่ได้ปิดกั้น สามารถที่จะพูดคุย

...

พร้อมเป็นฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่า แต่ไม่สามารถเจรจาได้ จัดตั้งรัฐบาลได้ และต้องไปเป็นฝ่ายค้าน น.ส.จิราพร กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องปกติของประชาธิปไตย เพราะการที่จะเป็นรัฐบาลได้ต้องมาจากเสียงข้างมาก หากไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ก็ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล ถือเป็นการทำงานเพื่อประชาชนเช่นเดียวกัน แต่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ฉับพลัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคพท. หลุดจากตำแหน่งนายกฯ ส่วนตัวเชื่อว่าน.ส.แพทองธาร ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งมาทำงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและบริสุทธิ์ใจ ตั้งใจจริงแต่เป็นที่น่าเสียดาย มีหลายนโยบายที่อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนยังไม่บรรลุผลสำเร็จ พร้อมยืนยันว่าในช่วงทำหน้าที่รักษาการจะทำงานอย่างเต็มที่