"เท้ง-ณัฐพงษ์" แถลงจุดยืนพรรคประชาชน ภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อ พร้อมโหวตนายกฯ แต่ไม่ร่วมรัฐบาล ต้องยุบสภาฯ ใน 4 เดือน เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ยันยังไม่ได้ตกลงกับพรรคไหนอย่างเป็นทางการ 

วันที่ 29 ส.ค. 68 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่ง ระบุว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมกับผู้บริหารพรรค และ สส.พรรคประชาชน ขอแถลงการณ์ในนามพรรคประชาชน หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่ง 

นับตั้งแต่เหตุการณ์คลิปเสียงการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร และฮุนเซนถูกเผยแพร่ออกมาสู่สาธารณะ พรรคประชาชนได้เรียกร้องมาโดย ตลอดให้นายกรัฐมนตรีทำการยุบสภาฯ เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน ได้ใช้อำนาจของประชาชนในการตัดสินรัฐบาลชุดใหม่ที่มีความชอบธรรมในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง แต่ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี กลับเลือกที่จะรักษาอำนาจของตนเองให้คงอยู่ต่อไป จนมาถึงวันนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ต้องพ้นออกจากตำแหน่ง 

ตนและพรรคประชาชนได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในประเด็นที่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หรือมาตรฐานทางจริยธรรมนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีหลักเกณฑ์ทางกฎหมายที่ชัดเจน แน่นอน ตายตัว อีกทั้งในเรื่องนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจของผู้มีอำนาจ จึงไม่ควรถูกวินิจฉัย ชี้ขาด โดยศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีนี้หากประชาชนเห็นว่า น.ส.แพทองธาร จะต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือยุบสภาให้ประชาชนได้ตัดสินผ่านคูหาเลือกตั้งไปก่อนหน้านี้

...


อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ออกมาแล้ว ซึ่งมีผลเป็นที่สิ้นสุด ทำให้สภาผู้แทนราษฎรจำเป็นต้องมีมติในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พรรคประชาชนเห็นว่า ด้วยสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ รัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศได้ จะต้องเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรมทางการเมือง อีกทั้งจะต้องเป็นรัฐบาลที่ใช้อำนาจในการแต่งตั้งทีมผู้บริหารที่เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองมากกว่าการแต่งตั้งที่เกิดจากการเจรจาต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง

แต่ด้วยเงื่อนไขที่ถูกระบุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ทำให้รัฐบาลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้จากองค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎรในชุดนี้ ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศในขณะนี้ จึงเป็นการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่มาทำหน้าที่ยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ในกรอบระยะเวลาที่เหมาะสม

ด้วยเหตุนี้ พรรคประชาชนในฐานะเป็นพรรคที่มีเสียงมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร จึงถือภารกิจในการผ่าทางตันทางการเมืองโดยอาศัยกระบวนการและกลไกในรัฐสภา คือ การเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในการทำหน้าที่ยุบสภาเพื่อป้องกันไม่ให้มีนายกรัฐมนตรีที่เคยเป็นอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร หรือนายกรัฐมนตรีคนนอก เข้าสู่อำนาจได้


โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน พร้อมเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้

1. นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่ที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป

2. คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกินไปกว่าวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป

3. พรรคประชาชนยืนยันที่จะไม่ร่วมรัฐบาล และทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อไป โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชนไปดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีนี้

นอกจากนี้ นายณัฐพงษ์ ยังบอกด้วยว่า ผลที่ออกมาไม่ได้เป็นบวกหรือลบต่อพรรคประชาชน แต่ยืนยันว่ายังไม่มีการตกลงกับพรรคการเมืองใดก็ตาม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้แถลงจุดยืนไปนานแล้ว ว่าจะไม่ร่วมรัฐบาล และใช้เสียงเป็นกลไกในสภาฯ แต่ถ้าพรรคใดๆ ก็ตามไม่สามารถรวมเสียงข้างมากในการตั้งรัฐบาลได้ และต้องมาขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน จะต้องรับเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อได้