“ขัตติยา” รองโฆษกเพื่อไทย จวกโพสต์ “คมสัน” เล่าบรรยากาศในห้องไต่สวนคดี “แพทองธาร” เสี่ยงทำสังคมเข้าใจผิด ขาดความรับผิดชอบ-ไม่เคารพคำสั่งศาลหรือไม่ หลังศาลมีคำสั่งห้ามเผยแพร่


วันที่ 22 สิงหาคม 2568 น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) ภายหลังวานนี้ (21 สิงหาคม 2568) ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เลขาธิการ สมช.)

จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งประธานวุฒิสภายื่นกรณีที่ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 106 (4) และ (5) หรือไม่ เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

น.ส.ขัตติยา ระบุ ตนต้องขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นผู้เข้าร่วมนั่งฟังการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ แต่หลังจากได้อ่านโพสต์ของ นายคมสัน โพธิ์คง ที่ออกมาเล่าถึงบรรยากาศภายในห้องไต่สวน จนมีข้อสังเกตดังนี้ ข้อแรก ศาลได้มีคำสั่งชัดเจนว่าห้ามเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับการไต่สวนคดี ซึ่งคงพิจารณาแล้วว่าการเผยแพร่ดังกล่าวอาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและการทำงานของศาล การที่มีผู้นำบรรยากาศและข้อสังเกตส่วนตัวมาเล่าสู่สาธารณะ จึงเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและเป็นการฉวยโอกาส ซึ่งผู้ที่มีวุฒิภาวะและเคารพต่ออำนาจตุลาการย่อมหลีกเลี่ยงการกระทำเช่นนี้

...

ข้อสอง สิ่งที่ปรากฏในโพสต์ของนายคมสัน ย่อมเป็นเพียงมุมมองที่เกิดจากการตีความส่วนตัว ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นการเล่าที่ตัดขาดจากบริบทภายในห้องไต่สวน ซึ่งย่อมเสี่ยงต่อการทำให้ผู้ที่อยู่นอกห้องเกิดความเข้าใจผิดหรือคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง

ข้อสาม เมื่อมีการนำบรรยากาศมาเผยแพร่ในลักษณะนี้ ย่อมไม่มีใครสามารถตรวจสอบหรือยืนยันได้ว่าส่วนใดเป็นจริง ส่วนใดไม่จริง หรือส่วนใดถูกเล่าไม่ครบถ้วน เนื่องจากศาลได้มีคำสั่งห้ามเผยแพร่ไว้แล้ว ทำให้ผู้ที่มีวุฒิภาวะและเคารพต่อศาล ไม่อาจออกมาเล่าข้อเท็จจริงจากอีกมุมหนึ่งเพื่อโต้แย้งได้

“ดิฉันจึงอยากชวนตั้งคำถามว่า การที่นายคมสัน นำบรรยากาศภายในห้องไต่สวนมาเผยแพร่ต่อสาธารณะเช่นนี้ ถือเป็นพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบและขาดความเคารพต่อศาลหรือไม่”