ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน “แพทองธาร - เลขาฯ สมช.” เสร็จสิ้น สั่งยื่นแถลงการณ์ปิดคดีไวขึ้น เหตุให้ตุลาการมีเวลาทำความเห็นส่วนตน นัดฟังคำวินิจฉัยตามเดิม 29 ส.ค. ย้ำ ห้ามนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่
วันที่ 21 สิงหาคม 2568 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าว กรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 18/2568)
สมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวม 36 คน เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา (ผู้ร้อง) ว่า ปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้อง) กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ซึ่งผู้ถูกร้องแถลงข่าวยอมรับว่าเป็นเสียงการสนทนาของตนกับสมเด็จฮุน เซน จริง แม้ผู้ถูกร้องจะแถลงข่าวในเวลาต่อมาว่าเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบส่วนตัว โดยมีเจตนาที่จะเจรจาต่อรองอย่างนุ่มนวลเพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขและอธิปไตยของไทยก็ตาม แต่ผู้เข้าชื่อเสนอคำร้องเห็นว่า ผู้ถูกร้องแสดงออกถึงความนิ่งเฉยและไม่ปฏิบัติหน้าที่โต้ตอบหรือกำหนดมาตรการรวมถึงการเจรจาระหว่างประเทศด้วยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่บุคคลผู้อยู่ในสภาวะ วิสัย และพฤติการณ์แห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีพึงกระทำ เพราะเหตุแห่งความสัมพันธ์ส่วนตัวในลักษณะเป็นฝั่งเดียวกันกับกัมพูชา พร้อมที่จะทำตามหรือจัดการตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการมาโดยตลอด
ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 ผู้ถูกร้องเห็นว่าเป็นฝ่ายตรงกันข้าม ผู้ถูกร้องไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสามประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
...
ผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดีเพื่อไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ ผู้ถูกร้อง (นางสาวแพทองธาร) และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เลขาธิการ สมช.) ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยานทั้ง 2 ปาก โดยตอบข้อซักถามของศาลรัฐธรรมนูญ และอนุญาตให้คู่กรณีซักถามเพิ่มเติม คดีเป็นอันเสร็จการไต่สวน ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน
ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งให้คู่กรณียื่นแถลงการณ์ปิดคดีในวันพุธที่ 27 สิงหาคม 2568 และนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. และนัดอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันเดียวกัน เวลา 15.00 น. นั้น พิจารณาแล้วเห็นว่า ตุลาการแต่ละท่านมีเวลาทำความเห็นส่วนตนเพียง 1 วัน เพื่อให้การวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปอย่างรอบคอบและครบถ้วน อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 31 จึงให้คู่กรณีแถลงการณ์ปิดคดีเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2568 หากไม่ยื่นภายในกำหนดเวลา ให้ถือว่าไม่ติดใจยื่น ส่วนนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ และนัดอ่านคำวินิจฉัย เป็นไปตามกำหนดเดิม.