“พล.อ.ทรงวิทย์” เป็นประธานพิธีส่งกำลังพลผลัดใหม่ 273 นาย ปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพที่เซาท์ซูดาน ยัน ระดมหลายหน่วยงานเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบแล้วกว่า 800 จุด เดินหน้าจนกว่าจะปลอดภัยทั้งหมด


วันที่ 18 สิงหาคม 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานในพิธีส่งกำลังพล กองร้อยทหารช่าง เฉพาะกิจไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 6 จำนวน 273 นาย เพื่อเดินทางไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน (United Nations Mission in South Sudan : UNMISS) ซึ่งเป็นการผลัดเปลี่ยนจากผลัดที่ 5 ที่ปฏิบัติภารกิจตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567

สำหรับกำลังพลผลัดที่ 6 มีจำนวน 273 นาย ประกอบด้วย กำลังพลจากกองทัพไทย จำนวน 17 นาย, จากกองทัพบก 256 นาย รวมทั้งมีทหารหญิงร่วมปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 28 นาย ซึ่งมีกำหนดการเดินทางในวันที่ 20 สิงหาคม 2568 จำนวน 137 นาย และเดินทางในวันที่ 7 กันยายน 2568 อีกจำนวน 136 นาย

...


ที่ผ่านมากำลังกองร้อยทหารช่างของไทย ได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติและองค์การต่างๆ ทั้งการปฏิบัติงานด้านวิศวกรรม และการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปช่วยพัฒนาชุมชนในพื้นที่ ควบคู่กับภารกิจทางยุทธวิธี จนทำให้ไทยได้รับเกียรติให้เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพอย่างต่อเนื่อง ถือได้ว่าเป็นบทบาท เกียรติภูมิ และความภาคภูมิใจของประเทศไทยในเวทีโลก รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ให้กับกำลังพลของกองทัพไทยในการปฏิบัติงานร่วมกับกองกำลังชาติต่างๆ อันจะเป็นการพัฒนาศักยภาพของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปสู่ความเป็นเลิศตามมาตรฐานสากลต่อไป

ทั้งนี้ กำลังพลทุกนายจะต้องผ่านการตรวจความพร้อมและสัมภาระตามมาตรฐานของสหประชาชาติก่อนออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง สู่กรุงจูบา เมืองหลวงของสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน เพื่อเริ่มภารกิจรักษาสันติภาพต่อไป นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังได้รับมอบจาก บริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาวุธของไทย ที่ร่วมสนับสนุนรถเกราะลำเลียงพลจำนวน 4 คัน และรถเกราะพยาบาล 1 คัน เพื่อใช้ในภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในสาธารณรัฐเซาท์ซูดานด้วย


ระดมหลายหน่วยงานเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบแล้วกว่า 800 จุด

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังเปิดเผยถึงการปฏิบัติภารกิจเก็บกู้วัตถุระเบิด โดยยืนยันว่าไม่ได้มีเพียงชุด TMAC (ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ) เท่านั้นที่เข้าปฏิบัติงาน แต่ยังมีหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดของตำรวจตระเวนชายแดน รวมถึงผู้นำท้องถิ่นอย่างกำนันและผู้ใหญ่บ้านร่วมช่วยกันค้นหาและเก็บกู้ด้วย ปัจจุบันมีกำลังพลปฏิบัติงานรวม 15 ชุดในพื้นที่ 3 จังหวัดหลัก คือ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ โดยสามารถตรวจสอบไปแล้วกว่า 800 จุด และจะดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าพื้นที่จะปลอดภัยทั้งหมด

ขณะเดียวกัน พล.อ.ทรงวิทย์ ย้ำด้วยว่า เครื่อง TMAC ยังคงถูกบรรจุอยู่ในราชการทหารสนาม แต่ได้มีการเสริมกำลังจากพื้นที่ต่างๆ เข้ามาช่วยสนับสนุนแนวหน้า เพื่อให้การเก็บกู้วัตถุระเบิดเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด.