“ส.ส.พรรคภูมิใจไทย” ลั่นผิดหวัง “ประธานสภาฯ” ชิงปิดประชุมสภา เสียโอกาสชงญัตติด่วนด้วยวาจาเพื่อแก้ไขปัญหาและเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 7 ส.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อม ส.ส. พรรคภท. แถลงข่าวหลังประธานสภาผู้แทนราษฎรปิดการประชุมในเวลา 15.00 น. ว่า ตนผิดหวังที่ประธานสภาฯ รีบปิดประชุมสภา ทำให้ ส.ส. ภท. ไม่มีโอกาสเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเพื่อแก้ไขปัญหาและเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา และเสียดายโอกาสที่จะนำเสนอข้อคิดเห็นสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน การรีบชิงปิดการประชุมสภาฯ หลังการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทั้งที่วันนี้ ส.ส. พรรคภท. ที่อยู่ใน 7 จังหวัดชายแดนได้รับผลกระทบรอที่จะเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ส.ส. ทั้งหมดที่อยู่หน้างานในพื้นที่สัมผัสกับพี่น้องประชาชนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ ตั้งใจรวบรวมปัญหาความเดือดร้อนทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนมาสะท้อนปัญหาให้รัฐบาลได้รับทราบ
“เมื่อเช้านี้ ส.ส. ภท. ทุกคนดีใจที่เห็น รมช. มหาดไทย มาตอบกระทู้สด ซึ่งเป็นกระทู้สดที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาชายแดน และเมื่อวานนี้ (6 ส.ค.) ผมในนามคณะ กมธ. การปกครอง สภาฯ ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่มีความสำคัญมาก ในเรื่องของการเบิกจ่ายการใช้เงินงบประมาณของรัฐบาล ทั้งที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีมาตอบกระทู้สดและท่านได้โฟนอินไปหาผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งผู้ว่าฯ ยืนยันว่าสามารถเบิกจ่ายได้ แต่ความเป็นจริงที่ปรากฏคือ เบิกจ่ายได้เพียง 55,000 บาท ส.ส. พรรคภท. ที่อยู่หน้างานรู้ปัญหาดี แต่น่าเสียดายที่เสียงของพวกเราอาจจะดังเบาน้อยไปจนไม่ไปถึงรัฐมนตรี และอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อว่าเป็นประเด็นการเมืองที่จะโจมตีรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่เลย วันนี้ ส.ส. อุบลราชธานี, สุรินทร์, ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ เราซักซ้อมเตรียมประเด็นปัญหาของพี่น้องประชาชน และการบริหารจัดการงบประมาณที่เกิดขึ้น ทั้งที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอื่นที่มีปัญหาในการดูแลพี่น้องประชาชนไม่ต่างกัน เวทีสภาผู้แทนราษฎรคือเวทีที่ ส.ส. จะเป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ เราเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า หากมีโอกาสเสนอเป็นญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อนำปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเสนอสู่รัฐบาล เพื่อให้รับไปแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ไม่ใช่แก้ไขที่ปลายเหตุด้วยการสั่งย้ายผู้ว่าฯ เพราะคนเป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เมื่อรู้ปัญหาแล้วควรนำปัญหาต่างๆ ไปแก้ไขให้กับประชาชนโดยด่วน” นายกรวีร์ กล่าว
...
นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีบททดสอบความสามารถของรัฐบาลในการรับมือกับภัยพิบัติกับวิกฤติต่างๆ ของประเทศ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าคาดการณ์ว่า จะมีฝนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีที่เจอปัญหากับน้ำท่วมซ้ำซากกันอยู่ทุกปี การรับมือกับปัญหาภัยพิบัติและวิกฤติต่างๆ ของประเทศ รัฐบาลควรใช้สถานการณ์และบทเรียนตรงนี้ทบทวนเพื่อวางมาตรการในการใช้จ่ายเงินงบประมาณกรณีฉุกเฉิน รวมไปถึงปรับปรุงวิธีการทำงาน การสร้างศูนย์พักพิง และการเตรียมการอพยพ การดูแลพี่น้องประชาชน การใช้จ่ายเงินงบประมาณเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ จึงขอชี้แจงว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นในห้องประชุม คือ พรรคภท. ต้องการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาในการแก้ไขปัญหาเยียวยาพี่น้องประชาชน ที่ต้องทำวันนี้ เพราะสัปดาห์หน้าจะเป็นการประชุมงบประมาณปี 2569 ส่วนสัปดาห์ถัดไปก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร หากวันนี้สภาฯ ไม่ชิงปิดประชุมไปเสียก่อน สภาฯ จะได้รับฟังความคิดเห็น และประชาชนจะได้รับการช่วยเหลือ เราจึงเสียดายโอกาสที่จะนำเสนอข้อคิดเห็นสู่คณะรัฐมนตรี