สถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชายังคงอ่อนไหว กอ.รมน. ตรวจพื้นที่เป้าหมายรับมือ “โดรนไม่ทราบฝ่าย” จัดชุดเคลื่อนที่เร็วร่วมหลายหน่วยงานและมวลเครือข่าย เฝ้าระวัง สกัดกั้น พร้อมเข้มลักลอบเข้าเมือง


วันที่ 3 สิงหาคม 2568 พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า จากสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งยังคงมีความอ่อนไหวในมิติด้านความมั่นคง และปรากฏความเคลื่อนไหวบางประการที่อาจส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ หน่วยงานด้านความมั่นคงจึงได้เร่งยกระดับมาตรการในการป้องกันและเฝ้าระวังภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะภัยจากอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนไม่ทราบฝ่าย ที่มีแนวโน้มถูกนำมาใช้ในลักษณะการสังเกตการณ์ หรือก่อเหตุไม่เหมาะสมที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ตลอดจนการกำหนดมาตรการควบคุมแรงงานสัญชาติกัมพูชา การเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย และรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนอย่างรอบด้าน

ทั้งนี้ เพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือภัยคุกคามดังกล่าว กอ.รมน. ได้บูรณาการการปฏิบัติร่วมกับกองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายปกครอง และฝ่ายพลเรือนในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศกัมพูชา จัดกำลังร่วมลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบจุดเป้าหมายในเขตเมืองและพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันมิให้มีการลักลอบใช้งานอากาศยานไร้คนขับอย่างผิดกฎหมาย และการตรวจสอบแรงงานตามมาตรการควบคุม

...

โดย ผอ.รมน.ภาค และ ผอ.รมน.จังหวัด สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัดทั่วประเทศ เตรียมการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ประกอบกำลังจากสารวัตรทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายพลเรือน อาทิ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) กองอาสารักษาดินแดน (อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.) รักษาดินแดน (รด.) และมวลชนเครือข่ายความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมกันเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และสกัดกั้นการใช้งานโดรนผิดกฎหมาย พร้อมเตรียมมาตรการตอบโต้ที่เหมาะสมตามระดับความรุนแรงของภัยคุกคามที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ในพื้นที่แนวหน้าได้รับอำนาจให้สามารถใช้มาตรการรบกวนสัญญาณ (Soft Kill) หรือใช้กำลังตอบโต้ (Hard Kill) ได้ทันทีเมื่อมีความจำเป็น ส่วนพื้นที่ส่วนหลังให้ใช้มาตรการที่เหมาะสมตามสถานการณ์ โดยต้องไม่กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน

พร้อมกันนี้ กอ.รมน. ได้กำหนดแนวทางเข้มในการเฝ้าระวังและติดตามความเคลื่อนไหวของแรงงานกัมพูชา ทั้งกลุ่มที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศและกลุ่มที่มีความประสงค์พำนักทำงานในไทย โดยใช้กลไกเครือข่ายมวลชน ความมั่นคงในพื้นที่ รวมถึงความร่วมมือจากผู้ประกอบการและนายจ้าง เพื่อร่วมเฝ้าสังเกต เป็นหูเป็นตาในการแจ้งเบาะแส ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้สามารถสนับสนุนการปฏิบัติของกองกำลังป้องกันชายแดน และกระทรวงมหาดไทยในการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังอย่างได้มีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน กอ.รมน. ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมเป็นหูเป็นตา แจ้งเหตุ แจ้งเบาะแส หรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะหากพบเห็นการใช้โดรนผิดกฎหมาย หรือพบเห็นบุคคลต้องสงสัยในบริเวณสถานที่สำคัญ สามารถแจ้งผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุความมั่นคง กอ.รมน. โทร. 1374 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.