ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง "พิเชษฐ์" หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตัดสิทธิ 10 ปี ย้อนปมผันงบฯ ก่อนสู่วันตัดสิน สะเทือนเก้าอี้รองประธานสภาฯ

ผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญต้องสั่งให้ผู้ถูกร้อง สิ้นสุดสมาชิกภาพสมาชิกภาพสภาผู้แทนราษฎร นับแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีความวินิจฉัยคือวันที่ 1 ส.ค.68 และเพิกถอนสิทธิการรับสมัครเลือกตั้งของผู้ถูกร้อง ทำให้ตำแหน่งสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งว่างลง และต้องมีการจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วันนับตั้งแต่ตำแหน่งว่างลง จึงทำให้พ้นตำแหน่ง สส. และถูกตัดสิทธิ 10 ปี

ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษา พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และ สส.จังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย ‘กระทำผิด’ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144

จากจุดเริ่มต้นสู่วันตัดสิน โดยวันนี้ (1 ส.ค. 68) ศาลรัฐธรรมนูญ ออกพิจารณาคดีกรณี นายภัณฑิล น่วมเจิม สส. พรรคประชาชน (ปชน.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวม 121 คน (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม กรณีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ให้ความเห็นชอบการจัดทำโครงการและให้มีการเสนองบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 3 โครงการ ที่ผู้ถูกร้องมีส่วนโดยทางตรงและทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

...


กรณีที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีคำขอเสนอโครงการทั้ง 3 โครงการดังกล่าวอีกครั้ง ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 เป็นการเสนอของบประมาณด้วยโครงการที่มีรูปแบบเดียวกันและต่อเนื่องกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่ผู้ถูกร้องมีส่วนในการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำใด ๆ ที่มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงและทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ถูก ส.ส. พรรคประชาชน (ปชน.) และ ส.ส. รวม 121 คน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม กรณีถูกกล่าวหาว่าไปยุ่งเกี่ยวกับการได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2568 และ พ.ศ. 2569 เพื่อลงพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 144วรรคสอง

ความสำคัญและผลกระทบของคดีนี้ เนื่องจากสถานะของนายพิเชษฐ์ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตำแหน่งสำคัญในฝ่ายนิติบัญญัติ

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานสำคัญในการตีความและบังคับใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงงบประมาณของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร


ผลกระทบต่อรัฐบาล คดีนี้มีความเชื่อมโยงและอาจส่งผลกระทบต่อคดีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังเผชิญกับการตรวจสอบจาก ป.ป.ช. ในคดีลักษณะเดียวกันตามมาตรา 144 จากกรณีนโยบาย "เงินดิจิทัล 10,000 บาท"

โดยกระบวนการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการไต่สวนพยานบุคคลรวม 9 ปาก และได้รับคำแถลงปิดคดีจากทั้งสองฝ่ายแล้ว โดยลงมติในวันที่ 1 ส.ค. 68 และอ่านคำวินิจฉัยในวันเดียวกัน โดยศาลมีคำวินิจฉัยว่านายพิเชษฐ์ฝ่าฝืนมาตรา 144 ทำให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ สส. และถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 10 ปี