โฆษก ศบ.ทก. ย้ำ “ไทย” อดกลั้นถึงที่สุด หากละเมิดอธิปไตยพร้อมดำเนินการเด็ดขาด ประกาศห้ามนำ “โดรน” ขึ้นบินพื้นที่ความมั่นคง ใครฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 ก.ค. 2568 พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุม ศบ.ทก. ว่า สืบเนื่องจากที่เรามีการพูดคุยเจรจาหยุดยิงกันทั้งสองฝ่าย วันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงเช้าวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เช้านี้ยังปรากฏการคุกคามของทางกำลังของกัมพูชาถึง 4 เหตุการณ์ตามที่โฆษกกองทัพบกก็ได้อ่านแถลงการณ์ไปแล้ว ขอเน้นย้ำว่าทางฝ่ายไทยยังคงยึดมั่นในเรื่องของความอดทนอดกลั้น หากมีการละเมิดอธิปไตยของประเทศไทยจะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดให้เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
สดุดีผู้กล้าทุกหน่วยงาน
“ขอชื่นชมผู้กล้าและขอสดุดีวีรชนทั้งหลายที่อยู่ในแนวหน้าตั้งแต่วันแรกของการปะทะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนอกจากเหล่าทหารแล้วยังมีทหารพรานและตำรวจตระเวนชายแดนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมเป็นผู้ที่ทำให้การปฏิบัติของเราประสบความสำเร็จ และนอกเหนือจากนั้นคนที่อยู่เบื้องหลังไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่และบุรุษพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข และจิตอาสาต่างๆ ที่ช่วยดูแลกองทัพและประชาชนด้วยความไม่เหน็ดเหนื่อย ขอขอบคุณและขอสดุดี”
พล.ร.ต.สุรสันต์ ยังระบุด้วยว่า สำหรับการหารือระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชา ที่ตกลงกันไว้เป็นแผนงาน คือวันที่ 4 สิงหาคมที่จะถึง มีกำหนดที่จะประชุมจีบีซี ซึ่งขณะนี้ฝ่ายไทยมีความพร้อมที่จะร่วมประชุม รอฝ่ายกัมพูชาส่งหนังสือเชิญเข้าประชุมตามที่ได้ตกลงกันไว้ ฝ่ายไทยพร้อมในรายละเอียดและเนื้อหาที่จะเข้าไปร่วมเจรจา ส่วนที่มีการพูดคุยเมื่อวาน (29 ก.ค. 2568) ในระดับผู้นำในภูมิภาคระดับแม่ทัพภาคและข้อตกลงในภาพรวมในแนวทางการหารือและการปฏิบัติทหารในพื้นที่ของทั้งสองฝ่าย หวังว่าภาพนี้จะยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่สันติภาพระหว่างประเทศทั้งสอง
...
ห้ามบินโดรนพื้นที่ความมั่นคง
โฆษก ศบ.ทก. กล่าวด้วยว่า วันนี้ได้มีการพูดคุยการห้ามบินโดรนในพื้นที่ที่อาจจะกระทบความมั่นคงของประเทศไทย เพราะเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2568 สำนักการบินพลเรือนได้ออกประกาศห้ามไม่ให้มีการบินหรือปล่อยอากาศยานที่ไม่มีนักบินในพื้นที่ที่อาจจะกระทบความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะในสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทยกัมพูชาตั้งแต่จังหวัดตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี นครราชสีมา นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ชัยนาท พิจิตร และลพบุรี และห้ามโดรนทุกประเภทในรัศมี 9 กิโลเมตรจากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวทุกแห่งโดยเด็ดขาด หากใครฝ่าฝืนจะต้องจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ชาวบ้านเสียชีวิต 15 ราย
ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยข้อมูลที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดน เป็นข้อมูลที่อัพเดทเวลา 10.00 น. มีพลเรือนได้รับผลกระทบ 53 ราย เสียชีวิต 15 ราย เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษและสุรินทร์ นอกจากนี้มีพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 12 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย ปัจจุบันนี้มีพลเรือนที่กำลังเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 11 รายเป็นเคสสาหัส 8 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย
แจ้งนานาชาติ “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลง
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ฝ่ายไทยได้ส่งหนังสือถึงอินโดนีเซีย จีนและสหรัฐฯ ที่เข้าร่วมเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซีย เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชาเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา และมีหนังสืออีกฉบับถึงฝ่ายกัมพูชาโดยตรง ส่วนการละเมิดล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค. 2568) ที่ภูมะเขือ กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมเรียกร้องให้กัมพูชายุติการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงทุกรูปแบบโดยทันทีและกลับมาปฏิบัติข้อตกลงหยุดยิงอย่างครบถ้วนอย่างเคร่งครัด
พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมาสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ได้ชี้แจงท่าทีของไทยที่ได้ยึดถือให้กับรัฐบาลและองค์การต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องไม่บิดเบือนและเข้าใจถึงจุดยืนของไทยที่ต้องการยุติความขัดแย้งด้วยสันติวิธี