“อิทธิพร” ประธาน กกต. ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อม ศรีสะเกษ เขต 5 วันที่ 10 ส.ค.นี้ เหตุมีหน่วยเลือกตั้งใกล้ชายแดน
วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สืบเนื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 5 แทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 10 สิงหาคม 2568 ว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรายงาน กกต. อย่างต่อเนื่องทันเหตุการณ์ เพื่อเตรียมข้อมูลและเสนอความเห็นให้ กกต. พิจารณาได้อย่างทันท่วงทีให้เหมาะสมกับจังหวะเวลา โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นหลัก
สำหรับการเลือกตั้ง สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ประกอบด้วยพื้นที่ อ.ขุนหาญ มีหน่วยเลือกตั้ง 150 หน่วย (หน่วยเลือกตั้งติดชายแดน ระยะ 4-10 กิโลเมตร จำนวน 21 หน่วย) และ อ.ภูสิงห์ มีหน่วยเลือกตั้ง 86 หน่วย (มีหน่วยเลือกตั้งติดชายแดนจำนวน 25 หน่วย)
นายอิทธิพร ระบุต่อไปว่า สำนักงาน กกต. ได้ประสานใกล้ชิดกับนายอำเภอทั้ง 2 อำเภอซึ่งเป็น กกต. เขต เกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงชายแดนและการเตรียมการเลือกตั้ง สำหรับข้อกฎหมายในกรณีนี้สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 102 กรณีการออกเสียงลงคะแนนไม่สามารถดำเนินการได้ ให้ กกต. เขต กำหนดที่เลือกตั้งใหม่ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถไปลงคะแนนเลือกตั้งได้โดยสะดวก แต่ถ้าไม่อาจกำหนดที่เลือกตั้งใหม่ได้ ให้ประกาศงดการลงคะแนนแล้วรายงานต่อ กกต. เพื่อพิจารณากำหนดวันลงคะแนนใหม่ หรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นเพื่อประโยชน์แห่งความสุจริตและเที่ยงธรรมในการเลือกตั้งโดยเร็ว
...
ทั้งนี้ ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง มาตรา 102 กำหนดว่า ในกรณีการออกเสียงลงคะแนนหน่วยใดไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเกิดเหตุจราจล อุทกภัย อัคคีภัย เหตุสุดวิสัย หรือเหตุจำเป็นอย่างอื่น ถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนวันเลือกตั้งให้ กกต. ประจำเขตเลือกตั้งกำหนดที่เลือกตั้งใหม่ ที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสามารถไปลงคะแนนได้โดยสะดวก
แต่ถ้าไม่อาจกำหนดที่เลือกตั้งใหม่ได้ ให้ประกาศงดลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งนั้น แล้วรายงานต่อ กกต. โดยเร็ว และในกรณีเหตุเกิดวันเลือกตั้ง ให้ กกต. ประจำเขตเลือกตั้ง หรือกรรมการประจำหน่วย ประกาศงดลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งนั้นแล้วรายงานต่อ กกต. โดยเร็ว.